“คณะทำงานชวน” ออกโรงกรีด ส.ส. ย้ำ ประชุมสภาฯสำคัญ อย่าอ้างต้องลงพื้นที่จน “สภาฯล่ม” งานนิติบัญญัติสะดุด ถือเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้น แนะวิป 2 ฝ่าย ควรประสานงานกันให้ดี
วันที่ 6 พ.ย. 65 น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ คณะทำงานของประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 65 ส.ส.ไม่ครบองค์ประชุม ในระหว่างวาระพิจารณารายงานผลการศึกษาของกรรมาธิการ (กมธ.) เรื่องญัตติเพื่อพิจารณาศึกษาสอบหาข้อเท็จจริงกรณีการปิดอ่าวมาหยา จ.กระบี่ ซึ่ง กมธ.ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาเสร็จแล้วนั้น ยังมีรายงานของกมธ. คณะต่างๆ ค้างรอการพิจารณาอยู่ในวาระอีกหลายฉบับ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 65 ก่อนเริ่มต้นการประชุมสภาฯนัดแรกของสมัยประชุมนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญผู้ประสานทั้ง 3 ฝ่าย คือ วิปฝ่ายรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา มาร่วมกันหารือกัน โดยได้ชี้แจงให้ทุกฝ่ายรับทราบว่า สมัยประชุมนี้เป็นสมัยประชุมสุดท้ายของสภาฯชุดนี้แล้ว เหลือเวลาอยู่ไม่มาก แต่มีเรื่องค้างวาระพิจารณาอยู่จำนวนมาก จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันบริหารเวลา และขอนัดประชุมวันศุกร์เพิ่มเติมตามความจำเป็น โดยปกติวันพุธจะเป็นการพิจารณาร่างกฎหมาย วันพฤหัสบดีจะเป็นวาระกระทู้ทั้งกระทู้สด กระทู้ทั่วไปและญัตติต่างๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 65 ที่ได้นัดประชุมเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นวาระพิจารณารายงานของกรรมาธิการคณะต่างๆ
น.ส.ผ่องศรี กล่าวต่อว่า ในการหารือวันนั้นทั้งวิปฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล รวมถึงวิปวุฒิสภาต่างเห็นพ้องต้องกันตามที่นายชวนเสนอ โดยรับว่าจะไปแจ้งให้สมาชิกแต่ละฝ่ายแต่ละพรรคทราบเพื่อให้ความร่วมมือ หากไม่นัดวันประชุมเพิ่มเติมในวันศุกร์ รายงานเหล่านี้ ซึ่งเป็นผลงานของสมาชิก และฝ่ายนิติบัญญัติโดยตรงก็จะค้างวาระอยู่จำนวนมาก ผลการศึกษาของกมธ.จะไม่ถูกนำไปขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ทำให้เสียประโยชน์ นายชวนเข้าใจดีว่าสมาชิกต้องใช้เวลาลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน แต่งานประชุมสภาฯก็เป็นหน้าที่สำคัญของสมาชิกที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเช่นกัน จึงได้เน้นย้ำเสมอว่า เวลาเป็นของมีค่า ได้ขอความร่วมมือจากสมาชิกทุกฝ่ายให้ช่วยกันบริหารเวลา
“ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร นัดประชุมเพิ่มเติมในวันศุกร์ เพราะมีความจำเป็น เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อสภาของประชาชน การเกิดเหตุสภาฯไม่ครบองค์ประชุมในวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้น วิปทั้งสองฝ่ายจึงควรประสานงานกันให้ดี จึงขอความร่วมมือส.ส.ทุกท่านได้ร่วมกันทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติให้สมบูรณ์ ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า เป็นประโยชน์ต่อประชาชนร่วมกัน เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ พึงพอใจและภาคภูมิใจที่จะเห็นผู้แทนฯของตนทำหน้าที่ในสภาฯด้วยความรับผิดชอบ โดยเฉพาะในสมัยประชุมสุดท้ายของสภาฯชุดนี้” น.ส.ผ่องศรี กล่าว