“ศุภชัย ใจสมุทร” ประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ขอ “พรรคร่วม” เคารพนโยบายรัฐบาล โหวตผ่าน พ.ร.บ.กัญชา มั่นใจ ช่วยคุมเข้มการใช้ สยบทุกความกังวลของสังคม
วันที่ 1 พ.ย. 2565 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. ……. โพสต์เฟซบุ็ก ระบุว่า
#อย่าเล่นการเมืองจนทำให้บ้านเมืองเสียหาย
กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และสุขภาพได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์แผนไทย และ ภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่มีความพยายามสร้างความเข้าใจผิดกับประชาชน ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะทำให้เกิดกัญชาเสรี ซึ่งไม่เป็นความจริง กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายสนับสนุน ส่งเสริมวิจัยการใช้กัญาชาทางการแพทย์ และสุขภาพ ไม่เคยสนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ
มีความพยายามที่จะทำให้เข้าใจผิดว่าหากสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบกับร่างพรบ.กัญชา กัญชง จะทำให้เกิดกัญชาเสรี จึงต้องมีการคัดค้าน ขัดขวางการพิจาณาร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งเป็นเจตนาที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เพราะ กฎหมายกัญชา กัญชง คือ การสร้างมาตรการ ควบคุมการใช้กัญชา ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น ห้ามจำหน่ายให้กับเยาวชน สตรีมีครรภ์ ห้ามโฆษณา ห้ามจำหน่าย และห้ามใช้เพื่อนันทนาการ โดยไม่ได้รับอนุญาต มีการควบคุมเข้มทั้งการผลิต การจำหน่าย และ การใช้ยิ่งกว่าบุหรี่ กับ เหล้า ผู้ฝ่าฝืน กระทำผิดกฎหมาย มีบทลงโทษทั้งจำและปรับ
กฎหมายกัญชา กัญชง ออกมาเพื่อควบคุมการใช้กัญชา กัญชง ให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ไม่ใช่ออกมาเพื่อให้ใช้กัญชาเสรี การไม่มีกฎหมาย คือ การทำให้เกิดกัญชาเสรี ใช้กันตามใจ ไม่มีกฎหมายมาควบคุม ทำให้เยาวชน เข้าถึงกัญชา ได้ โดยง่าย
“คนที่บอกว่า ไม่อยากให้มีกัญชาเสรี ไม่อยากให้เด็กเข้าถึงกัญชา ไม่อยากให้มีผลกระทบทางสังคม ต้องสนับสนุนให้กฎหมายกัญชา กัญชง ออกมาโดยเร็ว ไม่ใช่ขัดขวางการออกกฎหมาย การที่ท่านไม่เห็นด้วยกับการมีกฎหมายกัญชา กัญชง เท่ากับว่า ท่านต้องการให้มีการผลิต จำหน่าย ซื้อขาย ใช้ กัญชา อย่างเสรี โดยไม่มีการควบคุม ท่านต้องการแบบนั้นหรือ
ถ้ามีกฎหมายกัญชา กัญชง ออกมา เราจะไม่เห็นเด็กสูบกัญชา เราจะไม่เห็นร้านจำหน่ายกัญชา เปิดกันอย่างเสรี เราจะไม่เห็นการใช้กัญชาในทางที่ไม่เหมาะสม แบบที่ท่านเป็นห่วง เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่กฎหมายห้ามทำ เว้นแต่ได้รับอนุญาต และ ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ เป็นหลัก”
ร่างพระราชบัญญัติกัญชากัญชงซึ่งพิจารณาโดยคณะกรรมาธิการซึ่งแต่งตั้งโดยที่ประชุมใหญ่ของสภาผู้แทนราษฏรมาจากทุกพรรคการเมือง จากผู้แทนของคณะกรรมการกฤษฎีกา จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จากกระทรวงสาธารณสุข จากนักวิชาการ จากผู้แทนประชาชนผู้ปลูกและใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ มีที่ปรึกษาจากทุกภาคส่วน โดยการพิจารณาเป็นไปอย่างละเอียดถี่ถ้วน มีการรับฟังความคิดเห็นรอบด้านจากราชวิทยาลัยการแพทย์ จากผู้ป่วยซึ่งต้องใช้กัญชาเพื่อรักษาอาการป่วยและจากประชาชนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงไม่เป็นความจริงว่าการพิจารณากฎหมายนี้ไม่รัดกุม เป็นการกล่าวหาคณะกรรมาธิการ เป็นการบิดเบือนเพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด
ผมขอเรียกร้องสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนยึดถือนโยบายรัฐบาล เป็นแนวทางในการพิจารณาร่างกฎหมายกัญชา กัญชง เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ที่เกี่ยวกับการศึกษา วิจัย พัฒนากัญชา กัญชง เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และ การผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพ พัฒนากัญชา กัญชง ให้เป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้แก่ประชาชน และเกษตรกร โดยคำนึงถึงผลกระทบทางสังคม และยึดถือกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนการศึกษาวิจัย พัฒนากัญชา กัญชง ทางการแพทย์ จนทำให้ยาที่มีส่วนผสมของกัญชา ได้เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ และ ผลิตสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ออกมาจำหน่าย เป็นจำนวนมาก ทั้ง อาหาร เครื่อดื่ม เครื่องสำอาง สร้างรายได้ปีละหลายพันล้านบาท และเพื่อให้การศึกษาวิจัย พัฒนากัญชา กัญชง นำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย และสูงสุด จึงมีการประกาศให้กัญชาพ้นจากบัญชียาเสพติด เพื่อให้ประชาชน และ ผู้ประกอบการ นำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ แต่จำเป็นต้องมีกฎหมายออกมาควบคุมการใช้ ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในนโยบายรัฐบาล เพื่อควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ไม่เหมาะสม ป้องกันผล กระทบต่อสังคม ซึ่งก็คือ ร่างกฎหมายกัญชา กัญชง ที่พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน เกือบทุกพรรค ลงมติเห็นชอบร่วมกันแล้ว
ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรหากท่านเห็นว่ามาตราใดควรแก้ไข ก็ขอให้พิจารณาร่วมกันในสภาผู้แทนราษฎร ตามข้อบังคับการประชุม ตามแบบนิติวิธี โดยเฉพาะสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล ผมขอเรียกร้องให้ทุกท่านเคารพ และยึดนโยบายรัฐบาล เป็นแนวทางในการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ และขอย้ำว่าการมีกฎหมาย คือ การควบคุมการใช้กัญชา ไม่ให้เป็นกัญชาเสรี แต่การไม่มีกฎหมาย คือ การทำให้เกิดกัญชาเสรี ถ้าท่านไม่ต้องการให้มีกัญชาเสรี ท่านต้องช่วยกันพิจารณาให้มีกฎหมายออกมาควบคุมและบังคับใช้โดยเร็ว
“ความจริงที่มีคนพยายามบิดเบือนก็คือการกล่าวว่าร่างกฎหมายนี้ไม่ใช่ร่างของรัฐบาลแต่เป็นของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นการพูดเพียงครึ่งเดียว ความจริงก็คือเนื่องจากประเทศไทยจำเป็นต้องมีกฎหมายกัญชากัญชงมาบังคับใช้โดยเร็ว ที่ประชุมของคณะกรรมการ ปปส ที่มีรองนายกรัฐมนตรีวิษณุ เครืองาม เป็นประธานจึงได้มอบให้พรรคภูมิใจไทยซึ่งมีร่างพระราชบัญญัติอยู่แล้วเป็นผู้เสนอ เพราะถ้ารอร่างของรัฐบาลจะยิ่งเนิ่นช้าไป ดังนั้นถ้าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ยึดนโยบายรัฐบาล เป็นแนวทางทำงานร่วมกัน จะเป็นรัฐบาลร่วมกันได้อย่างไร นโยบายรัฐบาล คือ สิ่งที่ยึดโยงเชื่อมพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาทำงานด้วยกัน เรื่องนี้ผู้เป็น หัวหน้ารัฐบาล ผู้จัดการรัฐบาล และ หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล น่าจะต้องพิจารณาร่วมกัน เพื่อให้การทำงานเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ จะทำให้รัฐบาลอ่อนแอลง”