กระแสข่าวการปรับครม. เริ่มมีกระแสรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลัง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” หน.พรรค ประชาธิปัตย์ (ปชป.) ส่งรายชื่อ “นริศ ขำนุรักษ์” ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล่าสุด กระแทกมาอีกระลอกจาก การยื่นใบลาออกกะทันหันของ “ทศพร ศิริสัมพันธ์” ประธานที่ปรึกษานายกฯ และ ประธานกก. บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายมองว่า “น่าจะปรับตำแหน่งเดียว” ตามโควตาของ ปชป. เพื่อจำเป็นของพรรคที่จะมีผลต่อการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ยุทธศาสตร์ของพรรคในภาคใต้ ขณะที่พรรคอื่นโดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้จะมีความเคลื่อนไหว จากกลุ่มส.ส.ภาคใต้ ที่มี ส.ส.อยู่ 14 คน แต่กลับไม่มีรัฐมนตรีสักคน ก็อยากได้บ้าง ที่สำคัญ ยังมีโควตารัฐมนตรีเหลืออยู่ 2 ที่นั่ง คือ รมช.เกษตรฯ แทน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมช.แรงงาน ของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ถูกปลดออกไปนานร่วมปีแล้ว
อย่างไรก็ดี ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับมาจากระดับบริหาร ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค โดยเฉพาะจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาขณะที่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่มี รมช.ศึกษาธิการ คือ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จากคดีบุกรุกป่าสงวนที่เขาใหญ่ ก็มีท่าทีชัดเจนจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรค ออกมาย้ำแล้วว่า “ไม่ปรับ” เพราะสามารถทำงานทดแทนกันได้ อีกทั้งเป็นแค่การถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเท่านั้น
ทำให้ในตอนแรกเชื่อว่า จะปรับแค่ตำแหน่งเดียว ในโควตาของปชป.เท่านั้น แต่ล่าสุด เมื่อ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ ประธานคณะกรรมการอิสระ และประธานกรรมการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นหนังสือถึง คณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท. ขอลาออกจากตำแหน่งในบอร์ด ปตท.ทั้งหมด
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามเรื่องนี้เพียงสั้นๆ ว่า “เขาลาออก ก็คือลาออก”
เมื่อถามว่า ไม่เกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินกลับไปยังห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้าทันที
ด้าน พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ตอบคำถาม หลังจากถูกถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีแล้วหรือยัง ภายหลัง นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ลาออกจากตำแหน่งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และลาออกจากบอร์ด ปตท. ว่า เป็นการส่งสัญญาณการปรับ ครม. หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กลับย้อนถามสื่อว่า ใครนะ ใครลาออก โดยนักข่าวได้บอกย้ำชื่อ นายทศพร แต่ พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ตอบคำถามดังกล่าว โดยขึ้นรถกลับทันที
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงประเด็นการลาออกของ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่เกี่ยวข้อง หรือ เชื่อมโยงเหตุผลทางการเมือง
เป็นการตัดสินใจด้วยเหตุผลส่วนตัวของนายทศพรเอง ส่วนเรื่องการเมืองตอนนี้ นายกฯ และรัฐบาล มุ่งเน้นเรื่องการทำงานให้เป็นไปตามกรอบนโยบายมุ่งเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก อย่าพึ่งมุ่งเป้าไปถึงเรื่องความขัดแย้ง หรือกระแสในสังคมต่างๆ ที่อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้น
ที่สำคัญ นายกฯ ให้ความสำคัญเรื่องการเตรียมพร้อมการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก ที่จะมาถึงเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมขอให้สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวแน่นอนว่า การลาออกจากตำแหน่งภายในบอร์ด ปตท.ของ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ย่อมต้องจับตาว่าเกี่ยวพันกับการปรับคณะรัฐมนตรี ครั้งนี้หรือไม่ ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากแบ็กกราวด์ ก็เชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่เขาจะเข้ามาเสริมทัพทางด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงโค้งสุดท้ายในเวลาที่เหลืออยู่ แม้จะไม่กี่เดือน
อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากประวัติการทำงานของ นายทศพร เคยเป็นเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ “สภาพัฒน์” มาก่อน และ ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ “กุนซือด้านเศรษฐกิจ” ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด
ถือว่าได้รับความไว้วางใจมากคนหนึ่ง ดังนั้น หากพิจารณาถึงความเป็นไปได้สำหรับการรับตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ในรัฐบาล โดยอาจเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ที่เกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจ “เอสเอ็มอี” เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรืออาจเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะเพิ่มขึ้นมาอีกตำแหน่ง
หากพิจารณาจากความเป็นไปได้ ล่าสุด เท่าที่เห็นมันก็น่าจะออกมาเป็นแบบ “ปรับแค่สองตำแหน่ง” นั่นคือ ปรับตามโควตาของพรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งตำแหน่ง และอีกตำแหน่งเป็นไปตามความต้องการของนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้ามาเสริมทัพด้านเศรษฐกิจ ในช่วงปลายรัฐบาล !