“เสรีพิศุทธ์” บอก “ลุงศักดิ์” ชก”ศรีสุวรรณ” ทำผิดคน แนะ คนที่ควรชกอยู่ในทำเนียบ

“เสรีพิศุทธ์” ชี้ “ลุงศักดิ์” ชก”พี่ศรี” แค่สั่งสอน เหตุชอบร้องเรียน คนโน้น คนนี้ เพราะอยากดัง อยากเป็นข่าว ถือว่าผิดคน แนะ  “ลุงศักดิ์” คนที่ควรชกมีอีกอยู่ในทำเนียบ รับรองมีคนสรรเสริญแน่

วันที่ 19 ต.ค.2565 ณ รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะ ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ถูก นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ “ลุงศักดิ์” ทำร้ายร่างกาย ขณะยืนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ นายศรีสุวรรณ ชอบไปร้องเรียนคนโน้นคนนี้ รวมทั้งตนเองยังโดนร้อง ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง จึงมองว่าเป็นเพราะอยากเด่นอยากดัง และอยากเป็นข่าว ขณะที่เจ้าตัวเคยพูดเองว่าไปร้องเพราะได้เงิน ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ส่วนที่ โน้ส- อุดม แต้พานิช พูดในทอล์กโชว์เดี่ยว 13 ตนเองมองว่าไม่มีอะไร เพราะเป็นนักการเมืองต้องรับฟังคำวิจารณ์ได้ ขณะที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายศรีสุวรรณ มองว่าบางคนอาจอยากจะสั่งสอนจึงมาชกต่อย

“สำหรับผมเห็นว่าแค่ชก ไม่ถือว่าเป็นความรุนแรงนะ แต่เป็นการสั่งสอน แต่ถ้ารุนแรง หมายความว่า เอามีด เอาไม้ เอาปืนมาล่อกันไปเลย มันถึงจะเป็นความรุนแรง มาตรฐานคนไม่เหมือนกัน ไม่มีผิดถูก แต่สำหรับผมเรื่องของคุณศรีสุวรรณเนี่ย เขาสั่งสอน ถ้าเขาไม่สั่งสอนเขาเอาตายแล้ว”

ต่อข้อถามว่า หากไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น นายศรีสุวรรณ จะยังเดินหน้าฟ้องร้องต่อไปใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายศรีสุวรรณทำมาโดยตลอด แต่อย่างตนเองได้สั่งสอนด้วยการฟ้องกลับทั้งทางอาญา ทางแพ่ง และ เสนอให้ยุบสมาคม โดยเป็นการใช้กฎหมายในการหยุดนายศรีสุวรรณ กับการกระทำที่ไม่ชอบมาพากล แต่คนอื่นอาจจะแตกต่างจากตนเอง ที่ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงเข้าชกแทน

ส่วนความคืบหน้าในการยุบสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย อยู่ที่กรมการปกครอง ตนเองไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้พิจารณา แต่เรื่องก็ล่าช้าแม้จะมีการเปลี่ยนอธิบดีคนใหม่แล้ว ก็ยังอืดอาด ทั้งที่ตรวจสอบไม่ยาก หากทำงานจริงๆ แค่ 7 วันก็เสร็จแล้ว แต่ก็กินเวลามาหลายเดือน ส่วนเรื่องการยื่นศาล เป็นเรื่องของทนายความ ได้มอบอำนาจให้ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ไปดำเนินการแล้ว จึงต้องให้อิสระในการทำงาน เพราะอาจถูกกล่าวว่าตนไปรังแกได้ ทั้งที่ความจริง การตั้งสมาคมขึ้นมาแล้วเงินไม่เคยเข้าสมาคมแม้แต่บาทเดียว ก็ถือว่าเป็นการทุจริตแล้วในฐานะเลขาธิการ

เมื่อถามว่าเหมือนกระแสสังคมถูกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อสังคมเป็นอย่างนั้นก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ในระบอบประชาธิปไตย แต่ดีที่ไม่เจอคนที่เอาหนักกว่านี้ “อันนี้ถือว่าเป็นการสั่งสอน ไม่ใช่เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องการใช้ความรุนแรง แต่อาจจะชกผิดคนก็ได้ คนที่ควรจะให้เขาชกมีอีก อยู่ในทำเนียบ ถ้าเขาชกคนนั้นนะรับรองคนไทยยิ่งสรรเสริญ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว