กรมคุมประพฤติ ลงนามบันทึก MOU ศูนย์คุมประพฤติภาคประชาชน จุดประกายความหวัง ลดความเหลื่อมล้ำ และ กระจายความยุติธรรม เพิ่มพูนความดีช่วยกันดูแลสังคม โดยทุกฝ่ายร่วมมือกันทั้งบ้าน วัด โรงเรียน (บวร) หน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน เพื่อนำไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชน
วันที่ 26 ก.ย.2565 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการอบรมประชาชนกลาง (อ.ป.ก.) พระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ. ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระเทพวัชรเมธี, ผศ. ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ และนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง ศูนย์คุมประพฤติภาคประชาชน ระหว่าง มหาเถรสมาคม กรมคุมประพฤติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย โดยมีคณะผู้บริหารกรมคุมประพฤติ ผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมในพิธีและเป็นสักขีพยาน
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า นับเป็นนิมิตรหมายอันดียิ่งที่เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการอบรมประชาชนกลาง (อ.ป.ก.) ได้เมตตาให้ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง ศูนย์คุมประพฤติภาคประชาชน เพื่อจุดประกายความหวัง ภาพลักษณ์ใหม่ให้พลเมืองที่มีอนาคตได้รับการแก้ไข ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตลอดจนการฝึกทักษะด้านอาชีพ เลี้ยงดูตนเอง และครอบครัว และสามารถอยู่ร่วมกันในสังคม ชุมชน ได้อย่างปกติสุข เพิ่มพูนในการทำความดี ช่วยกันดูแลสังคม เพื่อจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชนและเสริมสร้างให้คนพึ่งพาตนเองได้
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวต่อว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการสร้างการสงเคราะห์ เกื้อกูล บูรณาการความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อช่วยเสริมสร้างสังคมสุขภาวะ โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ทั้งบ้าน วัด โรงเรียน (บวร) หน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน และภาคประชาสังคม โดยเฉพาะอาสาสมัครคุมประพฤติ เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติได้มีโอกาสปรับตัวในการอยู่ร่วมกับชุมชน พร้อมนำหลักธรรมทางศาสนาช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติให้กลับตนเป็นคนดีสู่สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการประกอบสัมมาชีพ อันเป็นการลดความเหลื่อมล้ำและกระจายความยุติธรรมในพื้นที่
