บนเส้นทางการเมือง “นิพนธ์ บุญญามณี” จากนักศึกษากิจกรรม สู่ รัฐมนตรี

นิพนธ์ บุญญามณี เป็นนักการเมือง และ ทนายความ เขาเพิ่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาล ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลัง ป.ป.ช.ส่งสำนวนฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่เบิกจ่ายงบประมาณให้กับ บริษัทที่ชนะการประมูลรถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงทางของ อบจ.สงขลา หลังพบว่ามีการสมยอมราคา (ฮั้ว) และทางจังหวัดสงขลาสั่งชะลอการจ่าย

กล่าวสำหรับนิพนธ์ ยังมีตำแหน่ง เป็นรองหัวหน้าตามภารกิจ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน รวม 8 สมัย อดีตสมาชิกสภาจังหวัดสงขลา

“นิพนธ์ บุญญามณี” เกิดวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 ที่ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นคนไทยเชื้อสายจีน “ฮกเกี้ยน” เป็นหลานของ บุนติ่น แซ่อิ้ว (เอี้ยว) ซึ่งอพยพมาจาก อำเภอเจียวอัน จังหวัดเจียงจิว มณฑลฮกเกี้ยน เป็นบุตรของ “เฉี้ยง” และ “จิ้ว” บุญญามณี

“นิพนธ์” เข้ารับการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา จาก โรงเรียนวัดนาทับ อ.จะนะ โรงเรียนถนนวิเชียรชม และ จบมัธยมปลายจาก โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จบเ นติบัณฑิตไทย (สำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา), ระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และ เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ชีวิตครอบครัว “นิพนธ์” สมรสกับ “กัลยา บุญญามณี” ปลัดเทศบาลนครสงขลา มีบุตร-ธิดา 3 คน ได้แก่ นิธิยา บุญญามณี, สรรเพชญ บุญญามณี แล ะนิธิกร บุญญามณี โดยบุตรคนแรกรับหน้าที่ ดูแลธุรกิจสืบทอดจากบิดา คนที่สองคือ “สรรเพชญ” สนใจงานการเมือง เคยลงสมัคร สส.เขต 1 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังไม่สำเร็จ และยังมุ่งมั่นทำงานการเมืองต่อไป ส่วนคนสุดท้อง ก็ดูแลภารกิจด้านกฎหมายให้กับคนในครอบครัว และธุรกิจในครอบครัว

“นิพนธ์” เติมโตมากับนักศึกษากิจกรรม ใน ม.รามคำแหง อดีตประธานชมรมค่ายอาสาพัฒนารามทักษิณ ในยุคก่อตั้ง เขายังตั้ง พรรคเยาวชนก้าวหน้า สมัยเรียน ม.ปลาย ปี 2518 ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา ซึ่งเป็นยุคแห่งการแสวงหาของขบวนการนักเรียน นักศึกษา ถือเป็นฝ่ายก้าวหน้าในขบวนการนักศึกษาในยุคนั้น

“นิพนธ์” โตมาพร้อมเพื่อนร่วมสถาบัน “เจือ ราชสีห์” ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนขึ้นเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยการบ่มเพาะประสบการณ์มากมายจาก “เสธฯหนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

จบนิติศาสตร์ และ เนติบัณฑิต นิพนธ์ บุญญามณี บ่ายหน้ากลับสงขลา เปิดสำนักงานทนายความ จังหวะปะเหมาะ “นิพนธ์” ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาจังหวัดสงขลา ได้รับเลือกเป็น 2 สมัย (พ.ศ. 2528, พ.ศ. 2533) ด้วยคะแนนท่วมท้นเป็นประธานสภาจังหวัดสงขลาด้วย

“นิพนธ์” ถือเป็น “ยุวชน” ประชาธิปัตย์ (young democrat ) รุ่นแรกๆ ของพรรค ผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาเยาวชนมา ต่อมาได้เข้าสู่งานการเมืองระดับชาติ โดยการลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา และ ได้รับเลือกตั้งครั้งแรก ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มีนาคม พ.ศ. 2535 หรือ 35/1 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และ ได้รับเลือกตั้งเรื่อยมารวม 5 สมัย คือ 2535/1, 2535/2, 2538, 2539, 2544 และ ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ/สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ 3 สมัย (2548, 2550, 2554) รวมทั้งสิ้นเป็น ส.ส. 8 สมัย

นิพนธ์ บุญญามณี ได้รับแต่งตั้งเป็น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในปี พ.ศ. 2537 เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม (ไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ในปี พ.ศ. 2541 และเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 2 ครั้งในปี พ.ศ. 2542 ประจำตัว พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ และ พ.ศ. 2543 ประจำตัวบัญญัติ บรรทัดฐาน รองเลขาธิการพรรค ในยุคที่มีสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเลขาธิการพรรค และเ ป็นรองเลขาธิการพรรคต่อมาอีกหลายปี

ทุกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล จะมีชื่อ “นิพนธ์” เป็นรัฐมนตรีทุกครั้ง เช่น จะได้เป็นรัฐมนตรีแรงงานบ้าง รัฐมนตรีพัฒนาสังคมฯบ้าง แต่ก็พลาดโอกาสทุกครั้ง

ในการทำงานในฐานะฝ่ายค้านของพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลเงาขึ้น “นิพนธ์” ได้ทำหน้าที่เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ เมื่อตำแหน่งนายกฯอบจ.สงขลา ว่างลง “นิพนธ์” ตัดสินใจลาออกจาก สส.และไปลงสมัครเป็นนายกฯอบจ.สงขลา และ ได้รับเลือกตั้งมาสองสมัย โดยเอาชนะ “อุทิศ ชูช่วย” เพื่อนร่วมสถาบัน

“นิพนธ์” ลาออกจากส.ส. เมื่อ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น นายกฯอบจ.สงขลา จนกระทั่งเดือนมิถุนายน 2562 ได้ลาออกจากตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หลัง ประชาธิปัตย์ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล หลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 เพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาล “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”

“นิพนธ์” ถูก บริษัทพลวิศว์ เทคพลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ชนะการประมูลรถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงทางของ อบจ.สงขลา ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เหตุไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถให้ผู้ชนะการประมูล มูลค่า 50 กว่าล้านบาท แต่ทาง อบจ.สงขลาก็ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการฮั้วประมูล ทางจังหวัดสงขลาจึงสั่ง อบจ.สงขลาชะลอการจ่าย นิพนธ์จึงไม่เบิกจ่ายงบก้อนนี้ตามคำสั่งของจังหวัดในฐานะผู้บังคับบัญชา และมีการฮั้วประมูลด้วย มีการใช้เอกสารปลอมด้วย

ป.ป.ช.มีมติส่งสำนวนฟ้องนิพนธ์ไปยังอัยการ ซึ่งอัยการเห็นแย้งกับ ป.ป.ช.จึงมีการตั้งกรรมการร่วมพิจารณาสำนวน พบมีจุดอ่อนถึง 16 จุด และ ป.ป.ช.ก็ไม่สามารถหาหลักฐานเพิ่มมาปิดจุดอ่อนได้ คณะกรรมการร่วมจึงมีมติสั่งไม่ฟ้อง และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด อัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ส่งสำนวนกลับไปให้ ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช.มีมติฟ้องเอง

เมื่อสำนวนฟ้องไปถึงศาลนิพนธ์จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อออกไปต่อสู้คดีโดยไม่ต้องมีตำแหน่งรัฐมนตรีไปกดดันใคร และไม่ประสงค์ใช้เวลาราชการไปต่อสู้คดี

วันนี้ “นิพนธ์” ยังมีตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตาม “ภารกิจ” ที่จะต้องเดินหน้าขับเคลื่อน ฟื้นฟู พรรคประชาธิปัตย์ต่อไป เพื่อก้าวสู่ “สนามเลือกตั้ง” ในอีกไม่นานนี้ !

#นายหัวไทร #นิพนธ์ #ประชาธิปัตย์