ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด “ขุนค้อน” พร้อมพวกรีบดัน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย

332

ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด “สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” เจ้าของฉายา”ขุนค้อน”อดีตประธานสภาฯพร้อมพวกปมเร่งรีบผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ไม่ชอบตามระเบียบประชุมสภาฯ สอดไส้แก้ไขขัดหลักการ ส่งสำนวนอัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว

วันที่ 31 ส.ค.2565 เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช.และ โฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อม นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กับพวกรวม 42 ราย ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ฉบับที่ .. พ.ศ. …. (พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย) โดยพฤติการณ์ของนายสมศักดิ์ กับพวก ร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทำผิดข้อบังคับในการประชุมสภาฯปี 51 หลายประการ

เช่นทำหน้าที่ของมติที่ประชุมสภา มีการเร่งรีบให้ ส.ส.ได้ลงมติ ไม่ทำหน้าที่ส่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ที่มีการโต้แย้งทักท้วงว่า การแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน ต้องส่งให้หน่วยงานอื่นของรัฐพิจารณาก่อนหรือไม่ การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เป็นการดำเนินการที่มิชอบ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติชี้มูลความผิดนายสมศักดิ์ กับพวก ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. ปี 2542 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 213/1 ปัจจุบันได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อพิจารณาแล้ว

“การกระทำของนายสมศักดิ์ คือไม่ทำหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับสภาฯ เร่งรีบผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย โดยไม่ทำหน้าที่ของมติที่ประชุมสภาว่า การขอแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการขัดกับหลักการแห่งร่างหรือไม่ อย่างไร มีการเสนอมาตราหนึ่งเข้ามา ตามหลักการต้องส่งเข้าที่ประชุมสภาพิจารณาก่อนว่า สิ่งที่ส่งมาใหม่ขัดหลักการหรือไม่ แต่คุณสมศักดิ์ไม่เสนอ นี่ก็ขัดแล้ว อีกกรณีคือไม่ส่งร่าง พ.ร.บ. ที่มีการโต้แย้งทักท้วงว่า พ.ร.บ ดังกล่าวอาจเข้าข่ายกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน เพราะมีการจ่ายชดเชยเยียวยาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ต้องส่งให้ใครพิจารณาหรือไม่อย่างไร แต่ปรากฏว่าท่านไม่ทำหน้าที่ลักษณะนี้” นายนิวัติไชย กล่าว