ศาลฏีกา ยืนตัดสินจำคุก “นาจิบ ราซัค” อดีตนายกรัฐมนตรี มาเลเซีย เป็นเวลา 12ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีฉ้อโกง กองทุน 1MDB มูลคากว่า2หมื่นล้านบาท
วันที่ 24 ส.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วานนี้ (23 ส.ค.) นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เดินทางด้วยรถยนต์เอสยูวีสีดำ มายังเรือนจำกลาง ในรัฐสลังงอร์ เพื่อรับโทษจำคุก 12 ปี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา ให้ยืนบทลงโทษจำคุกอดีตผู้นำมาเลเซีย วัย 69 ปี โดยไม่รอลงอาญา และชำระค่าเสียหายคืนแก่แผ่นดิน 210 ล้านริงกิต หรือประมาณ 1,693.01 ล้านบาท
คำตัดสินดังกล่าวเป็นการตัดสินครั้งสุดท้าย โดยก่อนหน้านี้ นาจิบ ราซัค ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 12 ปี ด้วยความผิด 7 ข้อหาทั้งข้อหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ผิด ,การละเมิดต่อหน้าที่ ข้อหาฐานฟอกเงิน ผ่านการโอนจาก บริษัทเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชันแนล บริษัทลงทุนด้านพลังงาน ที่เคยอยู่ภายใต้สังกัด กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย หรือ 1Malaysia Development Berhad (1MDB)นายราซัคปฏิเสธการกระทำผิดมาตลอด โดยทีมทนายความของเขาพยายามแก้ต่างว่า อดีตนายกรัฐมนตรีถูกชี้นำให้เชื่อว่า เงินดังกล่าวที่เข้ามาในบัญชีของเขา เป็นเงินบริจาคจากราชวงศ์ซาอุฯ ไม่ใช่เงินจากกองทุน 1MDB พวกเขาอ้างด้วยว่า นายราซัคถูกชี้นำผิดๆ โดยที่ปรึกษาทางการเงินหลายคน โดยเฉพาะนายโจ โลว์ ที่กำลังหลบหนี
สำหรับ คดีทุจริตกองทุน 1MDB ของมาเลเซียกลายเป็นคดีอื้อฉาวระดับโลก หลังพบการโอนเงินจากกองทุนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของนายนาจิบ ราซัค กว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยกองทุน 1MDB ซึ่งเป็น กองทุนที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 ในสมัยที่นาจิบ ราซัค เป็นนายกรัฐมนตรี มีจุดประสงค์เพื่อนำเงินของรัฐไปลงทุนหาผลตอบแทนให้แก่ประเทศ