โฆษกสาธารณสุข เผย ประชุมเอเปค ระดับรัฐมนตรีสธ. สะท้อนภาพระบบสุขภาพไทย ยุค “อนุทิน” เป็นที่ยอมรับระดับโลก นานาชาติชื่นชม พร้อมมองเป็นต้นแบบ
วันที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการประชุมระดับรัฐมนตรีสาธารณสุขของเขตเศรษฐกิจเอเปค ภายใต้หัวข้อ “Open to partnership. Connect with the World. Balance Health and the Economy. (เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์กับภาคี เชื่อมโยงกันกับโลก สู่สมดุลระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ) ระหว่างวันที่ 22 – 26 ส.ค. 65 ณ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ว่า
การประชุมสาธารณสุข ในงานประชุมเอเปค เป็นประเด็นที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะปกติ งานประชุมเอปคนั้น มีอยู่ด้วยกันทุกกระทรวงอยู่แล้ว แต่จะมีเพียงบางกระทรวงที่จัดในระดับรัฐมนตรี ที่หมายความว่า ประเทศที่จัดงานนั้น ได้รับความยอมรับในเรื่องดังกล่าวในระดับที่สูง ถึงความสำเร็จในการบริหารเรื่องนั้นๆ อย่างคราวนี้ ที่กรุงเทพ มีการจัดงานประชุมเอเปคระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็แปลว่า นานาชาติ ให้การยอมรับว่าประเทศไทย สามารถดูแลเรื่องสุขภาพของประชาชนได้ดี แล้วงานที่จัดขึ้น บางครั้งจัดกัน 1 – 2 วัน แต่คราวนี้ จัดงานทั้งสัปดาห์ และได้รับความร่วมมือจากชาติสมาชิก ที่รัฐมนตรี มาร่วมประชุมด้วยตนเอง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประเทศบรูไน, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ นอกจากนั้น ยังมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์จากสหรัฐฯ ไปจนถึง เลขาธิการอาเซียน เป็นต้น ที่สำคัญ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้รับเลือกให้นั่งในประธานคณะทำงานด้านการสาธารณสุข ของเอเปค โดยในการประชุม ทางไทยจะเปิดสำนักงานเลขาธิการของศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED)
“นี่คืองานใหญ่มาก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขไทยในในยุคของรัฐมนตรีชื่ออนุทิน ชาญวีรกูล เดินมาถูกทาง ทั้งในเรื่องของการแก้ปัญหาโรคระบาด ไปจนถึงการพัฒนาระบบสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน ที่เราได้รับการยอมรับในระดับโลก ประสบการณ์ของไทย ได้มีโอกาสเผยแพร่ออกสู่สายตาชาวโลก ในฐานะประเทศต้นแบบด้านสุขภาพที่แข็งแกร่ง การประชุมครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโอกาส เพื่อตอกย้ำจุดเด่นของไทย ขณะที่เรื่องกัญชาทางการแพทย์นั้น มีการติดต่อเข้ามาอย่างเป็นทางการจากประเทศมาเลเซียแล้วว่า จะมาขอข้อมูลจากประเทศไทย ในฐานะผู้นำอาเซียนสำหรับเรื่องนี้ ซึ่งเราจะพารัฐมนตรีมาเลเซียเยี่ยมชมองค์การเภสัชกรรม เพื่อดูการปลูก และการผลิตสารสกัดสำหรับใช้รักษาโรค นอกจากนั้น ยังมีการประสานเพื่อขอข้อมูล เรื่องการวางรากฐานของระบบ อสม.ในไทย ซึ่งถือเป็นอาวุธ ในการสู้กับวิกฤติสุขภาพเสมอมา ซึ่งไทย พร้อมสนับสนุนช่วยเหลือในการแบ่งปันประสบการณ์”