“อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ตอบสื่อต่างชาติ ไทยพร้อมเปิดตลาดเป็นผู้นำนโยบายกัญชาเพื่อสุขภาพ เตรียมหารือ รัฐมนตรีมาเลเซีย แบ่งปันภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยสู่ประชาคมโลก
วันที่ 17 ส.ค. 65 หลังพิธีเปิดงาน Meet the Press “กัญชา กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจ” ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนเชั่น กรุงเทพ เช้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ตอบคำถามสื่อต่างชาติ แจงผลประโยชน์ต่อประเทศทางการแพทย์และเศรษฐกิจ ยืนยันไทยพร้อมเป็นผู้นำนโยบายกัญชาเพื่อสุขภาพ ขณะรัฐมนตรีสาธารณสุขมาเลเซียขอเข้าพบระหว่างการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 สัปดาห์หน้า โดยนายอนุทินมีแผนพาคณะดูงาน แบ่งปันภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยสู่ประชาคมโลก
ผู้สื่อข่าวต่างชาติตั้งคำถามว่า รัฐมนตรีคาดหวังว่าอุตสาหกรรมกัญชาจะทำเงินให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นจำนวนเท่าไหร่ นายอนุทินตอบว่า “เบื้องต้นเราคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมนี้จะสร้างรายได้ในช่วงต้นประมาณ1.5พันล้านดอลลาร์ และการเติบโตจะอยู่ในอัตราคูณสองถึงสามเท่าเมื่อพ้นปีแรกๆไป”
เมื่อถูกถามว่าใครจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากนโยบายนี้ นายอนุทินตอบว่า “ทุกคนจะได้ประโยชน์ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพืชกัญชานี้ คือการที่เราสามารถสร้างรายได้จากทุกส่วนของมัน ดังนั้น กลุ่มคนที่ได้ประโยชน์กลุ่มแรกคือชาวไร่ที่เพาะปลูก และผู้คนที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรมนั้น นอกจากนั้นก็เป็นประชาชนที่นำส่วนต่างๆของกัญชามาสร้างผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ยา เครื่องสำอาง ส่วนประกอบอาหาร ฯลฯ ดังนั้น สิ่งนี้จะสร้างผลประโยชน์ที่หมุนไปได้หลายรอบ และจะเป็นประโยชน์กับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน” สื่อต่างชาติถามต่อว่า คิดอย่างไรกับการใช้เพื่อสันทนาการ นายอนุทินชี้แจงว่า “เราโฟกัสกับการใช้เพื่อการแพทย์เท่านั้น ในประเทศไทยตอนนี้ เราไม่ส่งเสริมการใช้เพื่อสันทนาการ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นไปตลอดกาล มันอาจจะเปลี่ยนแปลงได้เมื่อผู้คนเข้าใจถึงการใช้กัญชาอย่างถูกต้องอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ อาจจะในอนาคตอันใกล้”
ส่วนจะมีคำแนะนำอย่างไรกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นายอนุทินตอบว่า เราได้มีคำแนะนำสำหรับภาคการท่องเที่ยวไปแล้ว โดยเราพูดเสมอว่าในทุกแพลทฟอร์มของนโยบายกัญชาของไทยนั้น เราเน้นเพียงการใช้กัญชาทางการแพทย์และเพื่อสุขภาพ ไม่มีอย่างอื่น ดังนั้น การไปพูดกันว่ามาเมืองไทยเพราะมีกัญชาเสรีและสูบที่ไหนก็ได้นั้น คือข่าวปลอม ไม่เป็นความจริง และเราไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบนั้น เราต้องการให้นักท่องเที่ยวมาเมืองไทยแล้วเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีของเรา และเห็นความงดงามในประเทศเรา
ต่อข้อถามว่า มีการพูดคุยกันในหมู่ประเทศอาเซียนนอกจากมาเลเซียไหม เกี่ยวกับนโยบายนี้นายอนุทินให้ข้อมูลว่า “เราได้มีการพูดคุยกันในหลายประเทศ แต่รัฐมนตรีสาธารณสุขของมาเลเซียนั้น ท่านได้แสดงความสนใจ และเชื่อว่าการใช้กัญชาทางการแพทย์จะเป็นประโยชน์กับประเทศของท่านเช่นกัน ดังนั้น ท่านจึงถือโอกาสของการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนสัปดาห์หน้า ในการขอพบเพื่อพูดคุยเรื่องนี้กับผม และเราจะนำท่านชมสิ่งต่างๆที่เราทำเกี่ยวกับนโยบายกัญชาของไทย ดังนั้น หัวข้อในการพูดคุยก็คือจะร่วมกันผลักดันนโยบายนี้อย่างไร เพื่อที่จะให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ ทางการแพทย์ การดูแลผู้ป่วยด้วยผลิตภัณฑ์กัญชา”
ถามว่าจะแชร์ความรู้เกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์แผนไทยให้ด้วยหรือไม่ นายอนุทินยืนยันว่า “แน่นอน เราไม่มีอะไรจะปิดบัง เราต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงคุณประโยชน์ของพืชกัญชา และยิ่งมีคนสนใจเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เกิดพัฒนาการ การวิจัยมากขึ้น ที่สุดแล้วก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนทุกคนในทุกประเทศที่เชื่อมั่นในนโยบายนี้”
สุดท้ายมีคำถามว่า ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีนโยบายกัญชา มีความหวังว่าประเทศไทยจะเป็นผู้ทรงอำนาจในด้านนี้หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “เราหวังเช่นนั้น และเราต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย ผู้คนไม่ควรจะด้อยค่านโยบายนี้ เราได้ทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจแล้วว่า การใช้กัญชาอย่างผิดวิธีนั้นผิดกฎหมาย และจะถูกดำเนินคดี เราเชื่อว่าถ้าทุกอย่างควบคุมได้แบบตอนนี้ นโยบายนี้ก็สามารถจะถูกผลักดันในเชิงบวก และจะสร้างผลประโยชน์อีกมากมายให้กับประเทศ”.