‘ปักษ์ใต้’เดือด! ‘จุรินทร์’ลุยสงขลาเปิดตัว 30 ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ยังบลัด น้ำตาคลอ ตื้นตัน ชาวใต้ยังหนุน ลั่นขอทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.ด้ามขวาน 40 เก้าอี้ ด้าน ‘เฉลิมชัย’ ลั่น เดิมพันได้ผู้แทนฯไม่ถึง 52 ที่นั่งพร้อมวางมือทางการเมือง
วันที่ 14 สิงหาคม 2565 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) , นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาฯปชป. และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าปชป. พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพานิชย์ รมช.ศึกษาธิการ และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้า ปชป. ร่วมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ ภายใต้สโลแกน “รวมพลัง 30 เลือดใหม่ทวงปักษ์ใต้คืน” ณ ศูนย์ประสานงานสำนักงาน ส.ส. เดชอิศม์ ขาวทอง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
สำหรับผู้สมัคร ส.ส. อาทิ นายราชิต สุดพุ่ม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี จ.นครศรีธรรมราช เขต 1 / นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช / นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้ช่วยดำเนินงานประธานรัฐสภา เขต 1 สงขลา / นายนายสมยศ พลายด้วง นักธุรกิจ เขต 3 สงขลา / นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ผู้ช่วย ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง เขต 9 สงขลา / นางสาวพลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลวิชิต จ.ภูเก็ต เขต 3นายธนวัช ภูเก้าล้วน คณะทำงานรมช.หาดไทย เขต 2 จ.กระบี่ / จ.นาราธิวาส / นายเมธี อรุณ ศิลปินชื่อดังระดับประเทศ นักร้องนำวงลาบานูน จ.นาราธิวาส / นายมีศักดิ์ ภักดีคง อดีตอธิบดีกรมประมง เขต 3 จ.ชุมพร / นายสนิท นาแว อดีตกำนัน ต.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เขต 1 ลงแทน นายอันวาร์ สาและ โดยมีประชาชนชาวสงขลาเกือบ 10,000 คน เข้าร่วมฟังการปราศรัยและเปิดตัว
นายจุรินทร์ ขึ้นเวทีปราศรัยขอบคุณชาวปักษ์ใต้ที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มา ตั้งแต่หัวหน้าพรรคคนแรก จนถึงคนปัจจุบัน ซึ่งมีหัวหน้าพรรคเป็นคนใต้ถึง 3 คน ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ มีความผูกพันกับชาวใต้ มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะชาวปักษ์ใต้อุ้มชู โดยที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ได้สร้างผลงานให้กับประชาชนมายาวนานถึง 76 ปี แม้ในยามที่พรรคตกต่ำ ไปเป็นฝ่ายค้าน ก็ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ และในบางยุคบางสมัยพี่น้องชาวใต้อาจจะลงโทษพรรคประชาธิปัตย์บ้าง แต่พรรคก็ไม่เคยท้อถอย หรือคิดทอดทิ้งประชาชน เพราะท้ายที่สุดที่พึ่งของประชาธิปัตย์ก็คือประชาชนทั้งนี้ ระหว่างการปราศรัยในช่วงหนึ่งที่ นายจุรินทร์กล่าวถึงการกลับบ้านมาหาประชาชน มีน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอเบ้า โดยรับว่าเป็นความรู้สึกที่ตื้นตัน ที่ชาวปักษ์ใต้ ยังคงให้การสนับสนุนพรรค แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพรรคจะได้ที่นั่งในพื้นที่ภาคใต้เพียงแค่ 22 ที่นั่ง แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจจะได้ 35-40 ที่นั่ง
“มั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง ได้ถึง 35 – 40 ที่นั่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และวันนี้พรรคได้ประกาศ 30 เลือดใหม่ ที่จะเป็นกำลังสำคัญที่ทวงคืนปักษ์ใต้ มั่นใจว่าชาวปักษ์ใต้ จะไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ วัดผลได้จากการเลือกตั้งซ่อมทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ยังคงได้รับชัยชนะ” นายจุรินทร์ กล่าว
ด้านนายเฉลิมชัย ยืนยันว่า พื้นที่ภาคใต้ 58 ที่นั่งพร้อมสู้ทุกเขต และจะได้ ส.ส. มากกว่า 35-40 ที่นั่ง เพราะครั้งนี้ ผู้สมัครในพื้นที่ภาคใต้มีความเข้มแข็ง และพรรคมีความเป็นเอกภาพ ประชาธิปัตย์ในภาคใต้คือบ้านเรา ดังนั้น ต้องเอาบ้านหลังนี้กลับมา มั่นใจการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ ส.ส. ทั่วประเทศมากกว่า 52 ที่นั่ง พร้อมประกาศลั่นว่า หากได้ ส.ส.น้อยกว่า 52 ที่นั่ง จะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิตส่วนกรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทยอยลาออกว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ที่เห็นบ้านหลังใหม่ดีกว่า แต่พรรคไม่ได้ผิดอะไร และควรต้องถามคนที่ออกไปว่า สำนึกบุญคุณที่เคยให้ที่ซุกหัวนอนหรือไม่ และอย่างที่หัวหน้าพรรคได้กล่าวไว้ คือ บางทีที่ไหลออกไปก็ไม่ใช่เลือด แต่เป็นแค่หนอง ซึ่งทุกครั้งที่สมาชิกลาออก ตนเสียใจทุกครั้ง แม้บางคนจะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่เป็นเรื่องของความผูกพัน
พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าด้วยการสร้างความเป็นเอกภาพ ทำผลงานให้ประชาชน และถ้าตนประกาศสู้แล้ว คู่ต่อสู้ กระอักแน่ ขอประชาชนให้กำลังใจ ถ้ามีกำลังใจพรรคประชาธิปัตย์พร้อมสู้ไปกับทุกคน และยืนยันว่าที่ผ่านมาเรามีผลงานทำเงินเข้ากระเป๋าประชาชน จากนโยบายของพรรค และพรรคประชาธิปัตย์มีคุณสมบัติผู้ดี ที่ไม่เอาประโยชน์ทั้งหมด ขอให้จำคำพูดและถ้ามีผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ลงพื้นที่ ให้มาบอก และหากมีวันนั้น เลขาธิการพรรคต้องไม่ใช่ชื่อ เฉลิมชัย
“ปักษ์ใต้คือบ้านที่มีความรักความผูกพัน จึงขอโอกาสชาวปักษ์ใต้ทั้งหมด ทำการเมืองเข้มแข็ง ขอให้ชาวสงขลาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ยกจังหวัด เชื่อว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในอีก 6-8 เดือนข้างหน้า ผมไม่เชื่อว่าความจริงใจที่มีจะสู้เงินไม่ได้ แต่ว่าอยากจะบอกกับพี่น้องประชาชนว่า ความจริงใจอย่างเดียวคงไม่พอ เงินผมก็พอมีบ้าง” นายเฉลิมชัย กล่าว