“สมศักดิ์ เทพสุทิน” ระบุอย่าเพิ่งถามเรื่องย้ายพรรค มันเร็วไปมาก เอาว่าวันนี้ให้เดินไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมฟาดกลับ สูตรหาร500 มันย้อนแย้ง ให้ทุกคนจะตัดสินใจ ในส่วนพรรคเล็กๆที่เกิดขึ้นมานั้น ใครเหมาะกับตรงนั้นหรือไม่เหมาะ
วันที่ 3 ส.ค.2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500 ที่ผ่านสภาแล้ว ซึ่งฝ่ายค้านเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ว่า ขึ้นอยู่กับรัฐสภา ที่ต้องประชุมกันให้จบวาระ 3 ไปเสียก่อน จากนั้นเป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายทำหน้าที่ให้ครบสมบูรณ์ส่งไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และศาลรัฐธรรมนูญ แล้วแต่ว่าใครจะทำหน้าที่อะไร แต่วันนี้ยังเดินหน้าไปตามปกติ ยังมีเวลาอีก 2 สัปดาห์ที่จะทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และพรรคการเมือง ให้เรียบร้อย ส่วนตัวยังยืนยันว่าสูตรหาร 500 นั้นมีข้อเท็จจริงตามที่ยืนยันแล้วว่ามันย้อนแย้งกัน และถ้าตามสูตรคณิตศาสตร์ตัวเลขที่ออกมาก็เห็นได้ชัดไม่ต้องมาถกเถียงกัน เพราะจะเห็นว่าตัวเลขที่ออกมานั้นจะมีผลกระทบมากมาย
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อกลับไปใช้บัตรใบเดียวนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในข้อเท็จจริงของพรรคพปชร.เรื่องบัตรใบเดียวไม่มีแน่นอน ซึ่งได้พูดกันหลายฝ่ายหลายคนในพรรคว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แล้วเรื่องบัตรใบเดียวในสถานการณ์ปัจจุบันนั้นไม่มีเหตุผลอะไรเพราะเราพูดคุยกันจบแล้วเมื่อเราแก้เป็น 2 ใบแล้วเราจะไม่กลับไปอีก เหตุผลได้พูดคุยในสภากันมากมาย
ถามถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบันที่มีการย้ายพรรคกันมากในช่วงนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งคือกฎหมายที่เราพูดกันในพรรคทำให้มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่เมื่อกฎหมายจบเรียบร้อยแล้วตนคิดว่าเรื่องเหล่านี้จะสงบเพราะเขาจะคิดได้ว่าพวกเขาควรจะเหมาะสมกับตรงไหนอย่างไร ซึ่งต้องมีส่วนประกอบกฎหมายและรัฐธรรมนูญด้วย เป็นเรื่องที่ไม่น่าวิตกกังวลอย่างไร เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วจะจบภายในเร็ววัน อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าขนาดของพรรคพปชร.คงไม่แตกต่างจากเดิมมากหนัก เพราะผู้บริหารพรรคและกรรมการบริหารพรรคมีความตั้งใจอย่างมากและคนในพรรคเห็นอกเห็นใจกัน
และต่อข้อถามว่าจะย้ายพรรคไปไหนหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งถามอย่างนี้มันเร็วไปมาก เอาว่าวันนี้ให้เดินไปด้วยความเรียบร้อยและทุกคนจะตัดสินใจว่าในส่วนพรรคเล็กๆที่เกิดขึ้นมานั้น ใครเหมาะกับตรงนั้นหรือไม่เหมาะกับตรงนั้น ถ้ารัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้เขาทำพรรคการเมืองที่เหมาะสมได้คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก.
