“ซูเปอร์โพล” เปิดผลสำรวจ พรรคการเมือง คู่ชิงนายกฯ ที่ปชช. ชื่นชอบ

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจ กางเรตติ้ง‘พรรคการเมือง’ยอดนิยม-‘คู่ชิงนายกฯ’ที่ประชาชนชอบ ระบุ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ได้รับความนิยมสูงสุด ตามมาด้วย “แพทองธาร ชินวัตร” และ “อนุทิน ชาญวีรกูล

วันที่ 31 ก.ค. 2565 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง พรรคการเมืองไหน ยอดนิยม กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถาม ผู้ตอบและเครื่องมือวัดและใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) เกาะติดข้อมูลแวดล้อมในโลกโซเชียลลดปัญหาผลกระทบความน่าเชื่อถือของข้อมูล จำนวน 1,137 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 25 – 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

ผลการสำรวจพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 48.7 เป็นชาย และร้อยละ 51.3 เป็นหญิงสอดคล้องกับสัดส่วนของประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวนทั้งสิ้น 52,173,604 คน อ้างอิงฐานข้อมูลประชากรกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เดือนมิถุนายน พ.ศ.2565 ในตัวอย่างนี้มีร้อยละ 7.9 อายุไม่เกิน 24 ปี , ร้อยละ 33.1 อายุ 25 – 39 ปี , ร้อยละ 42.9 อายุ 40 – 59 ปี และร้อยละ 16.1 อายุ 60 ปีขึ้นไป

เมื่อจำแนกเป็นอาชีพ พบว่า ร้อยละ 4.3 เป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ , ร้อยละ 18.9 เป็นพนักงานเอกชน , ร้อยละ 21.0 ค้าขายอิสระ , ร้อยละ 32.8 เป็นเกษตรกร , ร้อยละ 11.8 รับจ้างทั่วไป , ร้อยละ 4.5 เป็นนักศึกษา , ร้อยละ 5.0 เป็นพ่อบ้านแม่บ้านเกษียณอายุ และร้อยละ 1.7 อื่น ๆ และว่างงาน โดยจำนวนมากหรือร้อยละ 31.9 มีสิทธิเลือกตั้งในภาคอีสาน รองลงมาคือร้อยละ 26.2 ภาคกลาง , ร้อยละ 16.5 ภาคเหนือ , ร้อยละ 12.8 ภาคใต้ และร้อยละ 12.6 กรุงเทพมหานครที่น่าสนใจคือ ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ได้ร้อยละ 26.9 จี้ติดตามมาไม่ห่างกันนัก คือ ร้อยละ 22.3 จะเลือกพรรคพลังประชารัฐ อันดับสามคือ พรรคภูมิใจไทย ได้ร้อยละ 14.2 อันดับสี่คือ พรรคก้าวไกล ได้ร้อยละ 6.9 เบียดกันมากับพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร้อยละ 6.8

ส่วนพรรคอื่น ๆ กระจายกันไปคือ พรรคเสรีรวมไทยได้ร้อยละ 2.4 , พรรคกล้าร้อยละ 2.4 , พรรคชาติไทยพัฒนาได้ร้อยละ 2.3 , พรรคไทยสร้างไทยได้ร้อยละ 1.9 , พรรคสร้างอนาคตไทย ได้ร้อยละ 1.6 , พรรคไทยภักดีได้ร้อยละ 1.4 ที่น่าสังเกต คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เพียงร้อยละ 0.4 และพรรคเศรษฐกิจไทย ได้เพียงร้อยละ 0.3 ที่เหลือร้อยละ 10.2 ระบุอื่น ๆ เช่น ไม่เลือกพรรคไหนเลย และพรรคไหนก็เหมือนกัน ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ อันดับนักการเมืองระดับคู่แข่งนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนชอบ

อันดับแรก ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 26.2

อันดับสอง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ร้อยละ 19.6

อันดับสามได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 14.4

อันดับสี่ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 7.0

อันดับห้าได้แก่ นายกรณ์ จาติกวณิช ร้อยละ 4.7

อันดับหก ได้แก่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 4.2

อันดับเจ็ด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 3.5

อันดับแปด ได้แก่ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ร้อยละ 3.0

อันดับเก้า นายวราวุธ ศิลปอาชา ร้อยละ 2.8

สุดท้ายร้อยละ 14.6 ระบุอื่น ๆ เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ , พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ , นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค , นายอุตตม สาวนายน และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ตามลำดับ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ความเป็นจริง (Reality) ระหว่าง “การสร้างและแพร่ข้อมูลโลกโซเชียลมีเดีย” กับ ข้อมูลในโลกทั้งใบช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะในโลกโซเชียลที่มีการปั่นยอดปั่นกระแสทำให้เห็นว่ารัฐบาลแย่ นายกรัฐมนตรีแย่ รัฐมนตรีแย่ ผู้ปกครองและผู้มีอำนาจรัฐแย่และกระทบไปยังเสาหลักของชาติโดยรวมอีกด้วยแต่เมื่อนำความเป็นจริงจากข้อมูลของโลกทั้งใบในประเทศไทยมาพิจารณาพบว่า ที่นักวิชาการกลุ่มหนึ่งนำข้อมูลจากโลกโซเชียลมาเผยแพร่ว่า ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกว่าร้อยละ 97 ถึงร้อยละ 98 นั้น โดยพบว่ามีการปั่นยอดได้จริงด้วยเทคโนโลยีโซเชียลมีเดียจากคน ๆ เดียวที่ซูเปอร์โพลค้นพบ และถ้าคนไทยเป็นจริงตามข้อมูลของนักวิชาการกลุ่มนี้ ประชาชนคงพากันลงถนนขับไล่รัฐบาลไปนานแล้ว

“ผลโพลชิ้นนี้มีความแตกต่างไปจากข้อมูลของนักวิชาการกลุ่มนั้นเพราะพบว่า นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังได้รับความไว้วางใจสูงสุดมากกว่านักการเมืองคนอื่น ๆ ในบัญชีรายชื่อนักการเมืองเด่น ๆ ของประเทศที่ปรากฏวันนี้ในสื่อสารมวลชนและแม้แต่พรรคเพื่อไทยที่ในโลกโซเชียลหลายแหล่งว่าจะแลนด์สไลด์จะชนะถล่มทลายแต่กลับพบว่าถ้าเลือกตั้งกันวันนี้จะชนะพรรคพลังประชารัฐไม่เกินร้อยละ 5 เท่านั้นและไม่มีคะแนนนิยมมากพอจะจัดตั้งรัฐบาลเดียว ดังนั้นถ้าหากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองใด ๆ เกิดขึ้นและพรรคร่วมรัฐบาลไม่แตกแยก ความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นคือ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอยู่อย่างไรก็ได้เป็นอยู่อย่างนั้นต่อไปอีก จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันหาคนดี คนเก่ง คนกล้า มาเสริมจะดีกว่าทำลายกัน” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว