กระทรวงเกษตรฯ เปิดตัวสุดยอดกาแฟไทย ปี 2565 ดันกาแฟที่ได้รับรางวัล ชู อัตลักษณ์ไทยสู่เวทีกาแฟระดับโลก ในงานมหกรรมพืชสวนโลก EXPO 2022 Floriade Almere ณ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีรับถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2565 หรือ “Thai Coffee Excellence 2022” ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟิวเจอร์พาค รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ว่า กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยองค์กร สมาคมภาคเอกชน และเกษตรกร จัดกิจกรรม การประกวดสุดยอดกาแฟไทย เป็นปีที่ 2 เพื่อสร้างการรับรู้การเป็นสุดยอดกาแฟไทย ที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ของรสชาติให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผ่านโครงการการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2565 โดยมีระยะเวลาในการจัดงาน ตั้งแต่เดือนมีนาคม – มิถุนายน 2565วัตถุประสงค์ เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และสานต่อ แนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการส่งเสริมให้เกษตรกรบนพื้นที่สูง ปลูกกาแฟเพื่อสร้างรายได้ และ ดูแลผืนป่า นอกจากนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์กาแฟไทย สร้างการรับรู้และชูจุดเด่นของกาแฟไทย ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคกาแฟรุ่นใหม่ และ ยังเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ เพิ่มทักษะให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟ รวมทั้งเกษตรกรได้พัฒนาคุณภาพเพื่อเพิ่มมูลค่าของกาแฟไทยทั้งนี้ จากผลสำเร็จของการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปีที่ผ่านมาของกรมวิชาการเกษตร ส่งผลทำให้มีการนำกาแฟที่ได้คะแนนสูงสุด ลำดับที่ 1-10 จากการประกวดไปจัดประมูล โดย กาแฟโรบัสตาได้ราคาประมูลสูง ถึง กิโลกรัมละ 20,000 บาท เกษตรกรสามารถ จำหน่ายกาแฟได้ในราคาที่สูงขึ้นเป็นที่น่าพอใจ และไม่มีผลผลิตคงค้างเหมือนในอดีต เกษตรกรได้เรียนรู้และมีการพัฒนาการผลิตกาแฟพิเศษ หรือ specialty coffee มากขึ้น โดยเฉพาะในกาแฟโรบัสตา ตลอดจนกาแฟไทยเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในกลุ่มผู้ที่นิยมบริโภคกาแฟพิเศษ ที่มีอัตลักษณ์ของเฉพาะถิ่น เกิดการเชื่อมโยงตลาด และลดช่องว่างระหว่างเกษตรกร ผู้ผลิตกาแฟ กับผู้บริโภค ทำให้เกษตรกรสามารถผลิตกาแฟที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งสามารถกำหนดราคาขายได้หากมีการพัฒนาการผลิตและการแปรรูปให้ตรงกับความต้องการของตลาดการบริโภคกาแฟพิเศษนอกจากนี้ ความพิเศษของการประกวดครั้งนี้ คือ กาแฟของผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกของแต่ละประเภท จะได้รับสิทธิพิเศษในการนำผลิตภัณฑ์กาแฟไปประชาสัมพันธ์ร่วมจัดแสดงให้ชิมในงานมหกรรมพืชสวนโลก EXPO 2022 Floriade Almere ณ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นการประชาสัมพันธ์กาแฟอัตลักษณ์ไทยสู่เวทีกาแฟระดับโลก
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อค้นหาเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดี ตั้งแต่ต้นทางการปลูกกาแฟ รวมถึงรสชาติกาแฟจนได้เป็นเมล็ดกาแฟไทยเกรดพิเศษ อีกทั้งเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการสวน การผลิตกาแฟ ตั้งแต่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตลอดห่วงโซ่การผลิต ถือเป็นการยกระดับคุณภาพกาแฟไทยให้มีอัตลักษณ์ของกาแฟเฉพาะถิ่น คุณภาพดีเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมทั้งสามารถเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ และความยั่งยืนแก่เกษตรกรไทยสำหรับการจัดการประกวดในปีนี้มีเกษตรกรส่งตัวอย่างกาแฟเข้าร่วมประกวด จำนวน 245 ตัวอย่าง แบ่งเป็น กาแฟอะราบิกา 184 ตัวอย่าง และ กาแฟโรบัสตา 61 ตัวอย่าง สำหรับเมล็ดกาแฟ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ 1-10 อันดับ จะนำไปทำการประมูลในวันนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟ และผู้บริโภคกาแฟที่สนใจได้มีโอกาสเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์กาแฟชั้นเลิศ
สำหรับผลการตัดสินผู้ที่ได้คะแนนประเมินคุณภาพกาแฟสูงสุด 3 ลำดับแรกในแต่ละประเภท และได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล รางวัลที่ 1 จำนวน 50,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 30,000 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 10,000 บาท ได้แก่ กาแฟอะราบิกา กระบวนการแปรรูปโดยวิธีแห้ง (dry/natural process) รางวัลที่ 1 นางสาวบงกชษศฎา ไชยพรหม รางวัลที่ 2 นายอะแป๊ะ หรี่จา รางวัลที่ 3 สหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด
กระบวนการแปรรูปโดยวิธีเปียก (wet/fully wash process) รางวัลที่ 1 นายวิชา แสนรุ่งอรุณ รางวัลที่ 2 นางสาวบงกชษศฎา ไชยพรหม รางวัลที่ 3 นางนภาพร กำเนิดมงคล กระบวนการแปรรูปโดยวิธีกึ่งแห้ง (semi-dry/honey process) รางวัลที่ 1 นายวิชัย กำเนิดมงคล รางวัลที่ 2 นายอานนท์ พวงแสน รางวัลที่ 3 นายสมชาย ผกายศรสกุล กาแฟโรบัสตา รางวัลที่ 1 นายนภัทรินทร์ รัตนพรนภาพันธ์ รางวัลที่ 2 วิสาหกิจชุมชนกาแฟไร่ดอยน่าน รางวัลที่ 3 นายธนาสิทธิ์ สอนสุภา และนางสาวจันจิรา นันทะ
สำหรับผลการพิจารณาผู้มีสิทธิ์ได้ประกาศนียบัตรจากกรมวิชาการเกษตร มีจำนวนทั้งสิ้น 233 รายการ สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้ประกาศนียบัตรจากกรมวิชาการเกษตรในทุกประเภท ได้ที่ https://www.doa.go.th/hort/