“วันนอร์”ชี้ 90 ปีรัฐสภา ปชต.ไม่ได้เกิดจากรัฐประหาร การเมืองต้องไร้กลุ่มทุนผูกขาด

“วันมูหะมัด นอร์ มะทา” รับผิดหวังสภายังไม่ยึดโยงประชาชน ควรทำให้เป็นประชาธิปไตยมากกว่านี้ ย้ำการเมืองต้องไร้กลุ่มทุนผูกขาด ชี้รัฐประหารไม่ทำให้ประชาธิปไตยกินได้

วันที่ 27 มิถุนายน 2565 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะอดีตประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาร่วมงานเสวนา​ “90 ปี​ รัฐสภา​ไทย​ การเดินทางและความหวัง” ร่วมกับ นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมบรรยายพิเศษพร้อมกล่าวเปิดงาน

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเข้ามาในรัฐสภาตั้งแต่ปี 2522 ได้เป็นประธานรัฐสภาในปี 2539 ทำงานเกี่ยวเนื่องกับรัฐสภามา 43 ปี แต่ตนคิดว่า ยังเดินทางไม่ถึงเป้าหมาย และไม่ถึงความฝัน นอกจากนี้ ยังรู้สึกผิดหวังลึกๆ ในบทบาทของรัฐสภา ที่ควรจะเป็นสภาของประชาชน และเป็นประชาธิปไตยมากกว่านี้ ต้องเป็นสภาที่ได้เลือกผู้บริหารประเทศอย่างแท้จริง และทำเรื่องที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ เช่น การกระจายอำนาจ ให้ประชาชนทุกจังหวัด มีสภาจากการเลือกตั้ง และมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นของตัวเอง สภาต้องไม่ทำงานให้รัฐบาลกลางอย่างเดียวนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า แต่สิ่งที่ประทับใจในทางบวกของการเดินทางของรัฐสภาตลอด 90 ปี คือ 1.ช่วงที่เป็นประธานสภาฯ คือ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พ.ศ. 2540 ที่มาจากประชาชนจริงๆ เพราะ มี ส.ส.มาจากการเลือกตั้ง มีความเป็นประชาธิปไตย มีองค์อิสระ และมี ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งยังมีการกำหนดขอบเขตอำนาจอย่างชัดเจน แต่น่าเสียดายที่ใช้ได้เพียง 9 ปี เพราะเกิดการปฏิวัติ เมื่อปี 2549

2.การตั้งสถาบันพระปกเกล้าที่ทำงานควบคู่กับรัฐสภา เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย 3.รัฐสภาปัจจุบัน มีช่องทางในการถ่ายทอดสดการประชุมรัฐสภา ทำให้ประชาชนมีโอกาสติดตามบทบาทสมาชิกได้อย่างใกล้ชิด อันจะส่งผลต่อการเลือกตั้งสมาชิกตามลำดับ และจะส่งผลต่อรัฐบาลด้วย แต่ต้องไม่มีการซื้อเสียง งูเห่า และการแจกกล้วย

ส่วนปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการทำงานของรัฐสภา คือ ถูกเตะตัดขาจากการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะมีขุนศึกบวกนายทุน และอำนาจนิยมที่ชอบในอำนาจ ซึ่งวันนี้ (27มิ.ย.) ก็ยังไม่พ้นวังวนนี้ จนได้รัฐบาลที่มาจากการก่อเหตุนี้ ที่ต้องมาคอยดูแลขุนศึกและนายทุน จนทำให้ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้น ต้องสร้างจิตสำนึกประชาธิปไตยให้ประชาชน และสร้างความรู้สึกนึกคิดว่า การปฏิวัติเป็นสิ่งชั่วร้าย เพราะประชาธิปไตยที่กินได้ไม่ได้เกิดจากรัฐประหารอย่างไรก็ตาม การทำงานของรัฐสภาต้องยึดโยงประชาชน โดยส.ว.ควรมีหน้าที่แค่การกลั่นกรองกฎหมาย ไม่ใช่มามีส่วนในการทำกฎหมายปฏิรูป หรือกฎหมายสำคัญอื่นๆ และอยากฝากไปถึงรัฐบาลเรื่องกระทู้ถามสด ที่มีขึ้นเพื่อเป็นการวัดกึ๋นการทำงานของรัฐบาล ถ้าทำงานไม่เก่งจะมาตอบไม่ได้ เพราะเป็นการถามเดี๋ยวนั้น ตอบเดี๋ยวนั้น และต้องไม่ใช่การมอบให้รัฐมนตรีมาตอบแทน

“นายกฯ ต้องฟังและเข้าใจเอง อย่าบอกว่างานเยอะ เพราะมีการกำหนดแล้วว่า วันพุธ และวันพฤหัสบดี มีการประชุมสภาฯ รัฐบาลต้องว่าง และที่รัฐสภามีห้องมากมายรองรับการทำงานของรัฐบาล ดังนั้น รัฐบาลต้องมาสภา เพราะคุณมาจากสภา เพราะเบอร์หนึ่ง คือ ประธานรัฐสภา และสภาคือฝ่ายที่ให้เงินรัฐบาลไปบริหารประเทศ ส่วนนายกฯ คือเบอร์สอง” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

นอกจากนี้ ตนอยากถามว่าเวลาละเมิดอำนาจศาล ทำไมถึงติดคุก แต่เวลาที่มีการทำปฏิวัติละเมิดอำนาจประชาชนทั้งประเทศ และมีการฉีกรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ศาลกลับวินิจฉัยว่าเป็นอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ดังนั้น จึงอยากฝากให้ศาลทบทวนแนวทางวินิจฉัยนี้ เพราะจะเป็นเรื่องที่ทำให้เดินต่อไปไม่ได้ และไม่เช่นนั้นจะเจอการรัฐประหารอีกหลายรอบ