“อนุทิน” ลงนาม ประกาศ สธ.ให้ “กัญชา” เป็นสมุนไพรควบคุม ดูแลการใช้

รมว.สาธารณสุข เผยได้ลงนาม ประกาศสาธารณสุข ให้”กัญชา” เป็นพืชสมุนไพรควบคุม เพื่อใช้ในทางการแพทย์ แต่ต้องมีมาตรการควบคุม ห้ามใช้สูบ และ เสพ ในที่สาธารณะ พร้อมเผย ประชุม ศบค.พรุ่งนี้ ยังไม่มี วาระให้ถอดหน้ากากอนามัย

วันที่ 16 มิ.ย. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการควบคุม กำกับการใช้กัญชาอย่างเหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพ ตามกฎหมายว่าด้วยกระทรวงสาธารณสุข และกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่า

นโยบายกัญชา มีกระแสตอบรับดีมาก เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ มีการเข้าแอปฯ “ปลูกกัญ” กันอย่างมหาศาล แต่ก็ต้องมีแนวทางการควบคุมการใช้ ตามข้อเป็นห่วงของสังคม วันนี้ได้ลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) ตามที่ กรมการแพทย์ไทยฯ เสนอเพื่อ แก้ไขข้อวิตกกังวล กฎหมายนี้ จะกำหนดให้ใช้กัญชาได้ในผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป เด็กวัยเรียน เยาวชนไม่สามารถใช้และเข้าถึงกัญชาได้ หากไม่มีแพทย์อนุญาต นอกจากนี้ ยังกำหนดห้ามใช้ สูบ ใช้เสพในที่สาธารณะ

ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เจ้าพนักงานตามกฎหมายสาธารณสุข ทั้งระดับท้องถิ่นใช้ในการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้กัญชาไม่เหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ กรมอนามัยได้ออกประกาศกระทรวงฯ เพื่อกำหนดให้กลิ่นและควันกัญชาเป็นเหตุรำคาญ และได้ออกประกาศกรมอนามัย เรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหาร ในสถานประกอบกิจการอาหาร พ.ศ. 2565 แต่เพื่อลดความเป็นห่วงของประชาชน ก็ต้องลงนามให้กัญชาเป็นพืชชสมุนไพรควบคุมด้วย

“ขอย้ำว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจ เราวางแผน และเดินหน้าควบคุมการใช้อย่างเป็นระบบ ขอย้ำว่า กัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ มีประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ถ้าใช้กันอย่างถูกต้องตามกฎกรอบที่วางไว้ ปัญหาจะไม่เกิดขึ้น แต่นี่กลับพบว่ามีการนำไปใช้ในทางที่ผิด ก็ต้องใช้กฎหมายเข้าไปควบคุม”

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเนื้อหาการประชุม ศบค.ในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.) นายอนุทิน ระบุว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอให้ปรับพื้นที่เป็นสีเขียว หรือ พื้นที่เฝ้าระวังทั่วประเทศซึ่งผ่านการพิจารณาในที่ประชุม ศปก.ศบค.แล้ว ขณะเดียวกัน ทาง พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ประธานศบค.ชุดเล็ก ได้ถามว่าหากจะให้สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ เปิดบริการตามเวลาที่กฎหมายกำหนดได้หรือไม่ ตนได้หารือกับ ปลัดสธ.และ อธิบดีกรมควบคุมโรคแล้วก็เห็นว่า ไม่มีข้อขัดข้องใด หากทำตามกฎหมาย ซึ่งทางกระทรวงฯ จะให้ความเห็นนี้ในที่ประชุมศบค. ทั้งนี้ ก็จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค. ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัย ไม่มีการบังคับให้ถอดอยู่แล้ว เพราะอย่างไรเสีย ก็ยังเป็นวิธีที่ควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ