ประชุม กมธ.งบฯ66 นัดแรก ตามคาด “อาคม” นั่งประธาน เด็ก ศท.-พรรคเล็ก ได้ตำแหน่งอื้อทั้ง รองประธาน-เลขา-ที่ปรึกษา ด้าน “ยุทธพงศ์” ร่ายยาวไล่ไทม์ไลน์ถกงบ เข้าวาระ 2-3 วันที่ 17-18 ส.ค. จี้ ผบ.ทัพต้องแจงงบด้วยตนเอง จ้อง ขยี้งบกลาโหม
วันที่ 6 มิ.ย.65 เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 นัดแรก โดยมีวาระเลือกตำแหน่งประธาน กมธ.และตำแหน่งต่างๆ โดยมี นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่ประธานชั่วคราว โดยที่ประชุมมีมติให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นประธาน กมธ. และรองประธาน กมธ. จำนวน 24 คน อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง, นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง, นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ, นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรค พท., นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท., นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.), นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท, และ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย (สร.) เป็นต้นเลขานุการ กมธ. จำนวน 9 คน อาทิ นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา พรรค พปชร., น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร พรรค ศท., โฆษก กมธ. จำนวน 10 คน อาทิ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร., นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย, นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรค พปชร., นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท., และ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ (พช.) ขณะที่ปรึกษา กมธ. จำนวน 11 คน อาทิ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรค พท., นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรค ศท., นายปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรค พท. สามี นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ ที่อนาคตจะย้ายไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.)จากนั้น เวลา 16.00 น. นายยุทธพงศ์แถลงภายหลังการประชุมว่า หลังจากที่ประชุมมีมติเลือกตำแหน่งต่างๆ แล้วนายสันติในฐานะรองประธานคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมแทน เนื่องจากนายอาคมซึ่งเป็นประธาน ไม่ได้มาร่วมประชุม นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้พิจารณาเรื่องกรอบเวลาในการประชุม ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ โดยในวันที่ 7 มิถุนายน แม้จะเริ่มประชุมในเวลา 09.00 น. แต่เนื่องจากเป็นการประชุมครั้งแรกที่จะพิจารณาเนื้อหา ประกอบกับมีการประชุม ครม. และให้เจ้าหน้าที่เตรียมข้อมูล จึงนัดประชุมในเวลา 13.00 น. ทั้งนี้ การพิจารณาจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ (6 มิถุนายน) ถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2565 จากนั้นวันที่ 5 สิงหาคม กมธ.จะตรวจรายงานก่อนเสนอกลับเข้าที่ประชุมสภา เพื่อพิจารณาในวาระที่ 2-3 โดยได้กำหนดการพิจารณาวาระ 2-3 ไว้แล้วคือวันที่ 17-18 สิงหาคมนายยุทธพงศ์กล่าวว่า สำหรับแนวทางในการพิจารณาจะพิจารณาเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาสังคมแห่งชาติ จากนั้นจะเริ่มพิจารณากลุ่มภารกิจด้านเศรษฐกิจ อาทิ กระทรวงการคลัง, พาณิชย์, ดิจิทัลฯ และเกษตรฯ เป็นต้น ด้านกลุ่มภารกิจด้านสังคม อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยว, สาธารณสุข, แรงงาน, พัฒนาสังคม, ศึกษาและอุดมศึกษา จากนั้นเป็นภารกิจกลุ่มความมั่นคง เช่น กลาโหม, มหาดไทย, จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ปิดท้ายด้วย หน่วยงานอิสระ เช่น รัฐสภา ศาล องค์กรอิสระ หน่วยงานในพระองค์ ส่วนการตั้งคณะอนุ กมธ.ขึ้นมาพิจารณานั้นคงต้องพิจารณาหลังจากที่ กมธ.พิจารณาไปแล้ว 2 สัปดาห์ ส่วนการประชุมจะไม่มีการประชุมผ่านระบบซูมเหมือนปีที่แล้ว ที่ให้หน่วยงานต่างๆ ชี้แจงผ่านระบบซูม แต่การพิจารณาในครั้งนี้ผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะผู้บัญชาการเหล่าทัพจะต้องมาชี้แจงด้วยตนเอง เนื่องจากสถานการณ์โควิดได้คลี่คลายลงไปแล้ว และการพิจารณางบถือเป็นเรื่องสำคัญ หากให้ชี้แจงผ่านระบบซูมก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะเราต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่ายนายยุทธพงศ์ยังกล่าวถึงงบของกระทรวงกลาโหมว่า จากการฟังอภิปรายในวาระที่ 1 ของกระทรวงกลาโหม ถูกท้วงติงมากโดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้ออาวุธของทุกเหล่าทัพ เชื่อว่าในชั้น กมธ.จะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นแน่นอน เช่น เครื่องบินรบ F35 ที่กองทัพอากาศเสนอซื้อมา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ส.ส.และ กมธ.เพิ่งได้รับเอกสารขาวคาดแดงแต่ไม่มีรายละเอียด แต่ยืนยันว่าเป็นงบฟุ่มเฟือยและเป็นไขมันต้องตัดออกไม่ปล่อยผ่านแน่นอน ซึ่งก็เห็นแล้วว่าเรือดำน้ำไม่เป็นประโยชน์ ไม่เหมาะกับภาวะขณะนี้ แต่ปี 2566 กองทัพเรือไม่ได้ตั้งงบเรือดำน้ำลำที่ 2-3 แต่เป็นเรื่องงบผูกพันของลำที่ 1 ที่จะต้องพิจารณา