คณะเจ้าหญิงกัมพูชา แจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เอาผิดบุคคลแอบอ้างตัวเป็น สมาชิกราชวงศ์กัมพูชา สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง จี้ ตำรวจจับกุมมาลงโทษ
วันที่ 2 มิ.ย. 2565 เวลา 10.00 น. ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถ.พหลโยธิน จตุจักร กทม. สมาชิกราชวงศ์แห่งอาณาจักรกัมพูชา โดยองค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม , เจ้าหญิงบุปผานี นโรดม และ เจ้าหญิงศุภะนารีนโรดม พร้อมคณะผู้ติดตาม เดินเข้าพบ พ.ต.ท.หญิง จันทนา สาตะมาน พงส.กก.3 บก.ป. แจ้งความกรณีถูกบุคคลอื่นแอบอ้างเป็นตน จนคนอื่นเข้าใจผิด สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง ตลอดจนสื่อมวลชนไทยนำไปเสนอข่าวว่าเป็น “องค์หญิงกำมะลอ” ประสงค์จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
ทั้งนี้ จากกรณี เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา จ.สุรินทร์ ได้ออกหนังสือ ประกาศ ที่ สร 0017.3/ว1625 เรื่องการแอบอ้างเป็นสมาชิกราชวงศ์กัมพูชา ลงวันที่ 29 มี.ค.2565 ถึงผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจ.สุรินทร์ และนายอำเภอ ทุกอำเภอ หนังสือมีใจความว่า ด้วยกระทรวงมหาดไทย ได้รับแจ้งจากกระทรวงต่างประเทศว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับข้อมูลเกี่ยวการเสด็จฯ เยือนประเทศไทยของพระองค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม สมาชิกพระราชวงศ์กัมพูชา ระหว่างวันที่ 18-19 มี.ค.65 จากการตรวจสอบข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ พบว่า ไม่มีสมาชิกราชวงศ์กัมพูชาที่ทรงใช้พระนามว่าพระองค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม อีกทั้งบุคคลที่อ้างตนเป็นพระองค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม ยังมีหน้าตาเหมือนกับบุคคลที่แอบอ้างเป็นพระองค์เจ้าสีสุวัตถ์ กุสุมานารีรัตนา ที่เดินทางมาจังหวัด
ด้าน องค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม เปิดเผยว่าจากกระแสข่าวดังกล่าวทำให้ประมาณวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมาไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อมาร่วมงานรับราวัล สมาคมสตรีไทยสากลได้ และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และ เกิดความทุกข์ไจจนล้มป่วย ขณะเดียวกันก็มีบุคคลที่แอบอ้างเป็นตัวเอง เดินสายออกงาน จนทำให้เกิดตวามเข้าใจผิด เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงอยากให้ตำรวจ ดำเนินการ ตรวจสอบ และจับกุมบุคคลที่แอบอ้างมาลงโทษ โดยหลังจากพบพนักงานสอบสวน บก.ป.แล้ว ได้เดินทางเข้าแจ้งความ พงส.บก.ปอท.แจ้งความเอาผิดในส่วนของการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพ์ฯ ต่อไปด้วย
สำหรับแถลงการณ์ของ คณะทำงานองค์หญิง แจ้งว่า “ตามที่วันที่ 19 มีนาคม2565 ที่ผ่านมา ได้มีหมายกำหนดการเสด็จเป็นการส่วนพระองค์เพื่อร่วมกิจกรรมกับสมาคมสตรีไทยสากล อาทิ งานสตรีไทยสากล , กาล่าดินเนอร์ ที่ร้านอาหารซอยราชครู แต่ด้วยเกิดเหตุขัดข้องบางประการ จึงไม่สามารถร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้ และได้ประกาศจากหน่วยงานระดับจังหวัดแถบชายแดน ได้ใช้ข้อความหมิ่นประมาท ด้วยเอกสาร สร้างความเข้าใจผิด และก่อให้เกิดความเสียหาย น่าอับอาย แก่พระประยูรญาติ แห่งราชวงศ์อาณาจักรกัมพูชา ภายหลังยังมีผู้สื่อข่าวได้ลงข่าวหมิ่นประมาท ซ้ำจนได้เกิดข้อความเชิงสับสน กับเจ้าหญิงปลอมที่เคยเป็นข่าวใหญ่เมื่อ 5 ปีก่อน และลงข่าวเพื่อสร้างความสับสนในการตีความเข้าใจ อาทิ เจ้าหญิงปลอม เจ้าหญิงกำมะลอ ซ้ำลงในสื่อทั้งโซเชี่ยล และฟรีทีวี ทุกช่อง ก่อให้เกิดความเสียหายระดับประเทศ และข่าวนี้ได้มีการตีพิมพ์แปลไปอีกหลายภาษา ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ดูถูก ดูหมิ่น กับผู้เสียหาย ทั่วโลก บัดนี้ ข้าพเจ้าจึงขอร้องทุกข์ ดำเนินคดี ทั้งแพ่ง และอาญา เรียกร้องค่าเสียหาย เรียกร้องค่าชดเชย ขอให้แก้ข่าว ขอให้ลงขอโทษทุกวิธี เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงกับข้าพเจ้าและครอบครัว ด้วย “