‘สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์’ เปิดปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย เน้นการทำงานเป็นทีม ให้ ส.ก. 50 เขตสนับสนุนการทำงาน ระบุ คนเดียวทำงานไม่ได้ พร้อมเน้นพูดความจริง จริงใจ พูดจริง ทำจริง และทำได้ เปลี่ยนกรุงเทพฯ เป็นเมืองสวัสดิการทันสมัย ต้นแบบอาเซียน
วันที่ 13 พฤษภาคม ที่สวนสาธารณะหมู่บ้านนักกีฬา เขตสะพานสูง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดปราศรัยใหญ่ เป็นครั้งที่ 2 เพื่อรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)ภายใต้แนวคิด “ทีมสุชัชวีร์ #เราทำได้” โดยมี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 4 พรรค ปชป.พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ก. 7 เขต คือ สะพานสูง บางกะปิ บึงกุ่ม ประเวศ ลาดกระบัง วังทองหลาง สวนหลวง สลับกันขึ้นปราศรัยแนะนำตัว เปิดนโยบายเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหากรุงเทพฯ โดยมีประชาชนมาร่วมให้กำลังใจและฟังปราศรัยแน่นพื้นที่ลานสวนสาธารณะ
นายสุชัชวีร์ กล่าวปราศรัยระบุว่า มีความมุ่งมั่นว่าจะเป็นผู้ว่าฯกทม.ที่ดีที่สุด จะไม่พูดโกหก ไม่ปกปิดความผิด หรือคิดคอร์รัปชั่นเด็ดขาด ถ้าไม่เริ่มต้นด้วยความจริง สิ่งที่พูดมันจะเป็นไปไม่ได้เลย
‘ผมอยากจะเริ่มต้นด้วยการพูดความจริง ไม่ว่าท่าจะนับถือศาสนาใด ธรรมเบื้องต้นของทุกศาสนา ไม่ว่า คริสต์ พุทธ มุสลิม ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายผมออกมาตรงนี้ จะมีใครว่าผมก็ตาม จะว่าอะไรก็ตาม ผมไม่เคยโกหก และผมมุ่งมั่นว่า จะเป็นผู้ว่าฯทั้งทีต้องเป็นผู้ว่ากทม.ที่ดีที่สุด และสิ่งที่ผมจะไม่ทำ คือ ผมจะไม่พูดโกหก ไม่ปกปิดความผิด และไม่คอร์รัปชั่น ท่านรู้หรือไม่ว่าจุดเริ่มต้นทั้งหมด มันอยู่ที่ความจริง ถ้าเราไม่เริ่มจากความจริงสิ่งที่พูดไปทั้งหมดมันก็เป็นไปไม่ได้ วันนี้สุชัชวีย์มากับทีมส.ก. 50 เขต เอาให้ชัดไปเลย และผมภูมิใจที่สุดที่วันนี้ ผมแคนดิเดทของประชาธิปัตย์ เรามาพูดความจริงว่าเราทีมเดียวกัน เรามุ่งมั่นจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้ ผมไม่ได้ว่าใคร แต่พรรคการเมืองส่งส.ก.แต่ไม่ส่งผู้ว่าฯ มันมีด้วยเหรอครับ หรือคนอยากเป็นผู้ว่าฯ แต่ไม่ส่งสก.มันมีด้วยเหรอครับ ท่านจะว่า อะไรผม จะว่าอะไรประชาธิปัตย์ก็ตามแต่ แต่จะบอกว่า เรามีความจริงใจ เราไม่โกหก ถามหน่อยเถอะครับ ถ้าเกิดว่าท่าจะรักใครซักคน ท่าจะรักคนที่พูดความจริงใช่ไม๊ครับ เริ่มต้นมันต้องพูดความจริง ถ้าเริ่มต้นเราไม่พูดความจริงเราจะหวังอะไรได้’ นายสุชัชวีย์ สุวรรณสวัสดิ์ กล่าว
เขา กล่าวถึงนโนยบายการพัฒนากรุงเทพฯพื้นที่ตะวันออกว่า กรุงเทพฯตะวันออก เป็นสัญลักษณ์ของ กทม.ที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมและมีมาตรฐานเลย ต้องเป็นพื้นที่รับน้ำท่วม รวมทั้งต้องเผชิญปัญหาการจราจรที่ติดขัด หากอยากเห็นกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกได้รับการดูแลต้องเลือกสุชัชวีร์ พร้อมทีม ส.ก.ทั้ง 50 เขต เราจะร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมและจราจรให้ได้ โดยมีแผนที่ชัดเจน จากประสบการณ์อและวิชาการ
‘กรุงเทพฯจะต้องขับเคลื่อนด้วยนวัตธรรม ด้วยเทคโนโลยี ไม่ใช่ว่า เวลาฝนตกก็มีคนไปเปิดประตูระบายน้ำ แตกต่างอย่างมาเลเซีย ที่เมื่อมีฝนตก เครื่องระบายน้ำก็จะทำงานอัตโนมัติ จะต้องทำให้กรุงเทพฯ ไม่ใช่เมืองแก่ๆ’ ผู้สมัครผู้ว่ากทม.จากประชาธิปัตย์ กล่าว
อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวถึงนโยบายด้านการศึกษาว่ส จะเปลี่ยนและให้สวัสดิการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกหลานคน กทม.เพื่อให้ได้รู้ว่าเด็กไทยไม่แพ้ใครในโลก จะทำให้โรงเรียนกทม.ทุกเขตเป็นโรงเรียนต้นแบบของอาเซียน จูงใจผู้ปกครองให้ลูกหลานเข้าเรียน ไม่ต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อส่งลูกไปเรียนโรงเรียนที่มีชื่้อเสียง
‘ตอนผมเข้าไปบริหารเทคโนลาดกระบัง สถาบันมีปัญหา เงินหายไปกว่าพันล้าน แต่ก็เข้าไปแก้ปัญหา และพัฒนาสถาบัน จนแม้แต่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อคราวเดินทางมาเยือนไทยขอมาดูงาน เป็นการยืนยันว่า ผมทำได้ และทำมาแล้ว’ ดร.สุชัชวีย์ กล่าวบนเวทีปราศรัย
ส่วนด้านสาธารณสุข ปัจจุบัน กทม.มีโรงพยาบาล 11 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง รวม 80 แห่ง สิ่งที่ตนตั้งใจหากได้เป็นผู้ว่าฯกทม.จะยกระดับให้เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กและขนาดกลางให้หมดเลย
“วันนี้ทุกคนต้องเลือกอนาคตให้ กทม. จึงขอให้มั่นใจได้เลย หากไม่รักหรือไม่ชอบ แต่อย่างน้อยไว้ใจได้เลย ไว้ใจคนพูดจริงที่มาเพื่อทำจริง มาพร้อมความรู้ ประสบการณ์และทีมงานที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัย เป็นต้นแบบอาเซียนให้ได้ ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมฟังการปราศรัย วันนี้เขตนี้เป็นตัวแทนของทุกเขตในกรุงเทพฯที่รอผู้ว่าฯที่มาพร้อมกับความจริงใจและทีมงานที่จริงจัง ปราศรัยครั้งหน้าที่บางขุนเทียน จะเข้มข้นกว่านี้แน่นอน เพราะวันนี้ถึงเวลาเปลี่ยนกรุงเทพเราทำได้” นายสุชัชวีร์กล่าว
ในการปราศรัยผู้สมัครกทม. จากประชาธิปัตย์ ได้เน้นย้ำเรื่องการทำงานเป็นทีม โดยผู้ว่าราชการกทม.จะต้องมีสก.เป็นทีมงาน นำเสนอปัญหาจาก 50 เขต รวมทั้ง เป็นผู้อนุมัติงบประมาณในการนำไปพัฒนากรุงเทพฯ
‘คนที่บอกว่า มาคนเดียว เก่งคนเดียว ไม่เชื่อว่า คนๆเดียวจะทำงานได้ จะต้องมีทีมส.ก.คอยสนับสนุน ดังนั้น เมื่อเลือกผู้ว่าของประชาธิปัตย์แล้ว ก็ขอให้เลือกทีมส.ก.ของพรรคทั้ง 50 เขต’ ดร.สุชัชวีย์ กล่าว