เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (7 เม.ย.) กองทัพสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธหลายลูกถล่มฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งในซีเรียโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าเป็นการตอบโต้ที่ผู้นำซีเรียใช้ก๊าซพิษสังหารหมู่ประชาชน และยังทำเพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์” ของสหรัฐฯ เอง
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่า ขีปนาวุธโทมาฮอว์กราว 50 ลูกถูกยิงจากเรือรบยูเอสเอส พอร์เตอร์ และยูเอสเอส รอสส์ ซึ่งประจำการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อเวลา 03.45 น.ตามเวลาท้องถิ่นซีเรีย และพุ่งไปโจมตีเป้าหมายภายในฐานทัพอากาศชัยรอต (Shayrat) เช่น ทางวิ่งเครื่องบิน อากาศยานทหาร และสถานีน้ำมันอีกหลายจุด
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ยังไม่มีการประเมินออกมา
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติซีเรียรายงานว่า “ปฏิบัติการก้าวร้าวของสหรัฐฯ” ทำให้ฐานทัพอากาศของซีเรียถูกโจมตีด้วย “ขีปนาวุธหลายลูก” และยังอ้างแหล่งข่าวในกองทัพซึ่งยืนยันว่า “มีความเสียหายเกิดขึ้น”
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่รีสอร์ต มาร์-อา-ลาโก รัฐฟลอริดา ได้เปิดแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (6) ว่าตนได้สั่งให้กองทัพอเมริกันยิงจรวดโจมตีฐานทัพอากาศที่ซีเรียใช้ส่งเฮลิคอปเตอร์พร้อมถังบรรจุก๊าซพิษออกไปโจมตีพลเรือน และขณะนี้ไม่มีข้อสงสัยแล้วว่า รัฐบาลอัสซาดได้นำอาวุธเคมีร้ายแรงออกมาใช้ในสงคราม
“สหรัฐฯ จำเป็นต้องป้องกันและยับยั้งการแพร่กระจายหรือการใช้อาวุธเคมี เพื่อรักษาผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ” ทรัมป์ กล่าว
“เวลานี้ไม่มีข้อสงสัยแล้วว่า ซีเรียใช้อาวุธเคมีที่ทั่วโลกสั่งแบน ฝ่าฝืนพันธกิจที่มีต่ออนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี และละเลยคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ”
“หลายปีที่ผ่านมา ความพยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของ อัสซาด ล้วนแต่ล้มเหลว… และล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้วิกฤตผู้ลี้ภัยจึงยังเป็นปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ เสถียรภาพของทั้งภูมิภาคถูกบ่อนทำลาย เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร”
“ค่ำคืนนี้ผมขอเรียกร้องให้นานาประเทศที่มีอารยธรรมแล้วทั้งหลายร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อยุติการเข่นฆ่าและเหตุนองเลือดในซีเรีย รวมถึงปราบปรามลัทธิก่อการร้ายทุกประเภท และทุกรูปแบบ”
|