มุสลิมไทยไปฮัจย์ไม่เต็มโควต้า 4,148 คนจาก 5,885 คน กำหนด 5 ข้อเข้มก่อนเดินทาง

มหาดไทย เผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย รับทราบโควตาผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทย 5,885 คน มีคนลงทะเบียนเดินทาง 4,148 คน กำหนดระยะเวลาในการเดินทาง ระหว่าง 10 มิ.ย. – 3 ก.ค.65 กำหนด 5 ข้อเข้มก่อนเดินทาง

วันที่ 10 พ.ค. 2565 นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวานนี้ (9 พ.ค. ) ซึ่งมีมติรับทราบบันทึกข้อตกลง การเตรียมการฮัจย์ ประจำปี พ.ศ. 2565 (ฮ.ศ. 1443) ระหว่างผู้แทนฮัจย์ของประเทศไทย กับ กระทรวงฮัจย์และอุมเราะห์ของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

โดยกำหนดโควตาผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทย จำนวน 5,885 คน ให้เดินทางจากประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ และ ท่าอากาศยานนราธิวาส ไปยังราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ King Abdulaziz เมืองเจดดาห์ และท่าอากาศยานนานาชาติ Prince Mohammed เมืองมาดีนะห์ พร้อมทั้งรับทราบผลการลงทะเบียนเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี พ.ศ. 2565 (ฮ.ศ. 1443) โดยข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน 2565 มีผู้ลงทะเบียนแสดงความประสงค์ จำนวน 4,148 คน

สำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี พ.ศ. 2565 (ฮ.ศ. 1443) ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด จำนวน 5 ข้อ ได้แก่
1. ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนรวมถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19
2. ต้องแสดงผลการตรวจโรคโควิด-19 แบบ PCR ที่เป็นลบอย่างน้อย 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง
3. ต้องสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการประกอบพิธีฮัจย์ตลอดเวลา
4. ต้องแสดงเอกสารการจัดทำประกันโรคโควิด-19 และ
5. ต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี

ทั้งนี้ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียให้การรับรองแล้ว 9 ชนิด ได้แก่ Pfizer, Moderna, Oxford Astra Zeneca, Johnson & Johnson, Sinopharm, Sinovac, Covaxin, Sputnik และ Covavax กำหนดระยะเวลาในการเดินทางจากประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมประกอบพิธีฮัจย์ ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน 2565 – 3 กรกฎาคม 2565