“อนุทิน” ไขปม ปชช.ถูกจับ”กัญชา” เผยหารือนักกฎหมายแล้ว ยัน พ้นยาเสพติด

45

รมว.สาธารณสุข ไขปม ประชาชน ถูกจับมีกัญชา 1 ต้นไว้รักษาตัวเอง เผยได้หารือกับ นักกฎหมายแล้ว ยืนยัน ประมวลยาเสพติด เขียนชัด “กัญชา-กัญชง” หลุดพ้นจากยาเสพติดแล้ว โดยจะมีผล ในวันที่ 8 มิ.ย.65

วันที่ 25 มีนาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม พร้อมแจ้งข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษ เป็นต้นกัญชาเพียง 1 ต้นเพื่อรักษาตัว ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้หารือกับเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปตรงกันว่า หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ปลดล็อกทุกส่วนของกัญชา กัญชง เว้นสารสกัดที่มีค่า THC มากกว่า 0.2% โดยน้ำหนัก ให้พ้นจากความเป็นยาเสพติดเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ในการรักษาตั้งแต่ระดับครัวเรือน โดยจะมีผลบังคับใช้อีก 120 วัน คือ 8 มิ.ย.65

จากการหารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย ชี้ว่า กัญชาไม่ผิดกฎหมาย ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 แม้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขปี 2563 ใช้บังคับ แต่ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับประมวลกฎหมายยาเสพติดซึ่งมีศักดิ์สูงกว่า เพราะฉะนั้นเมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดแล้ว กฎกระทรวงฯ พ.ศ.2563 ซึ่งมีมาก่อน จึงใช้บังคับไม่ได้

“เราเข้าใจดีว่า ในช่วงรอยต่อระหว่างกฎหมายเก่าและกฎหมายใหม่ ความสับสนทั้งจากผู้บังคับใช้กฎหมายและประชาชนอาจเกิดขึ้นได้ เพื่อประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนและให้สมแก่เจตนารมณ์ของกฎหมาย จึงจะได้เสนอให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กรุณาช่วยสร้างความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานถึงความละเอียดอ่อนในช่วงเวลานี้ เพื่อไม่ให้มีการจับกุมชาวบ้านที่จะถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งรังแกประชาชนได้” นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการจับกุมไปแล้ว ทาง ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ได้แสดงความจำนงว่าจะไปใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกันให้ทุกราย และจัดหาทนายความให้ ยกเว้นรายใหญ่ ที่อาจมีเจตนาฝ่าฝืน อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานี้ก่อนถึงวันที่ 8 มิ.ย.65 ที่ประกาศกระทรวงฯ ปลดล็อกทุกส่วนของกัญชา กัญชง จะมีผลบังคับใช้ ขอให้ทุกฝ่ายได้กรุณาใช้ความระมัดระวังรอบคอบและคำนึงถึงความละเอียดอ่อนในการปฏิบัติงาน ในส่วนของกระทรวงสาธาณสุขก็จะพยายามสร้างความเข้าใจให้มากขึ้นในวงกว้าง ร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน