“บิ๊กตู่” โต้ “หมอชลน่าน” ร่ายยาว รบ. ต้องแก้ปัญหา ทีละเปลาะ ลั่นไม่ได้ทำคนเดียว

นายกฯ ลุก ตอบข้อกล่าวหา ผู้นำฝ่ายค้าน ร่ายยาว 40 นาที ชี้ ปัญหา หลายด้านประดังมาพร้อมกัน ต้องแก้ทีละเปลาะ ยัน ไม่ได้ทำงานคนเดียว ขู่ฝ่ายค้าน หากขัดแย้งรุนแรง ต้องรับผิดชอบร่วมกัน

วันที่ 17 ก.พ. 2565 ที่ รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อภิปรายตอบโต้ข้อกล่าวหา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หน.พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตาม มาตรา 152 ว่า ทั้งจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และ โควิด-19 ว่า เนื่องจากมีหลายสถานการณ์เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน พร้อม ๆ กัน รัฐบาลพยายามจะแก้ปัญหามาโดยตลอด ตนไม่ได้ทำคนเดียว ทำกับคณะทำงานด้านต่างๆ รัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการหลายแสนคน ช่วยทำกันงานในทุกมิติ

เวลาที่เหลือหลังจากนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมจะชี้แจง เพื่อไม่ให้ประชาชนฟังแต่โจทย์อย่างเดียว จะได้รับฟังการแก้ปัญหา ความก้าวหน้า หลักคิด แนวคิด หลายท่านในที่นี้อาจจะมองว่า รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี ไม่มีความสามารถ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนทั้งประเทศ “ผมเคยคุยกับท่าน ท่านบอกว่าผมเข้ามาในสภา ควรจะวางบทบาทให้เหมือนรามเกียรติ์ ผมคงเล่นฝ่ายบทพระราม พระลักษณ์ อีกฝ่ายหนึ่งเล่นบททศกัณฐ์ ผมคิดว่า ประเทศชาติคงไม่ใช่แบบรามเกียรติ์หรอกนะ แต่ท้ายที่สุดรามเกียรติ์ก็รู้อยู่แล้วว่า ทศกัณฐ์เป็นยังไงตอนท้าย”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวมาทั้งหมด มี 15 ประเด็น อันแรก ตนคิดว่า ไม่ใช่ข้อเท็จจริง คล้าย ๆ กับรัฐบาลใช้อำนาจ ทำกลไกเข้าสู้อำนาจ รัฐธรรมนูญ ตนยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลเดิมจากปี 57 ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้มาตามรัฐธรรมนูญ 2560 คนที่อยู่ในอำนาจเดิมก็มาทำหน้าที่ใหม่ตามรัฐธรรมนูญใหญ่ มี 4 คนที่ซ้ำเดิม นอกนั้น 32 คน คนใหม่ทั้งหมด นโยบายต่างกันแน่นอน

“เรื่องการก่อหนี้สาธารณะ การขยายเพดานหนี้ หนี้ครัวเรือน น้ำมันแพง ค่าแรงถูก เดี๋ยวชี้แจงได้หมด เรื่องอัตราการว่างงานนักศึกษาจบใหม่ เราแก้ปัญหาสำเร็จมาก ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เป็นวิกฤตการณ์ของโลก ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การแก้ปัญหายุ่งยาก มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก รัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหาโครงสร้าง คงพูดง่าย ๆ ไม่ได้ คงต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การแก้ปัญหาโควิดกลับไปกลับมา วัคซีนล่าช้า ชี้แจงได้หมด วันนี้จัดหาวัคซีนได้เพียงพอ จนประเทศไทยได้รับการยอมรับ การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบรุนแรง ไม่มีการเยียวยาที่เหมาะสม ความเหมาะสมคืออะไรหรือ การช่วยเหลือ การให้เงิน การสนับสนุนงบประมาณ รัฐบาลก่อนหน้านี้ได้ทำโครงสร้างใหม่ ๆ ให้ประเทศไทยมีจีดีพีสูงขึ้นบ้างหรือไม่ นอกจากขอใช้เงิน ขอใช้งบประมาณ พอกู้มาก็บอกว่าไม่ทั่วถึง เพิ่มหนี้สาธารณะ มีคำตอบทั้งหมด ไม่มีใครทำโดยไม่ดูกฎหมาย

“โรคระบาดอหิวาห์แอฟริกา โรคระบาดในสัตว์ สุกรราคาแพง วันนี้ราคาแพงไหม ไม่แพงเพราะอะไร นายกฯ เข้าไปแก้ไขอย่างไร รองนายกรัฐมนตรีเข้าไปแก้ไขอย่างไร เดี๋ยวอธิบายได้หมด ผมจะปกปิดไปทำไม แต่สิ่งที่ท่านปกปิดผม ทำไมถึงมีการเก็บกักเนื้อสุกรไว้ในห้องเย็นจำนวนมาก มีคดีในศาล ผมยืนยัน ต้องถูกลงโทษตามกฎหมายทุกประการ ผมไม่ได้รังแกใคร ผมไม่ได้สนับสนุนผู้ค้ารายใหญ่ ประเทศไทยต้องอยู่ด้วยเศรษฐกิจฐานราก”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ความรักความสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญ ต่างประเทศเอาคำว่า ชาติ ศาสนา พหุวัฒนธรรม สถาบันมี แต่แตกต่างกัน เอาสถาบันเหล่านี้เชิดชูความเป็นหนึ่งของประเทศ ไม่ใช่เอามาสร้างความแตกแยก มองในแง่ประชาธิปไตยมีปัญหาหมดทุกประเทศ แต่มันใครจะอยู่ในกรอบหรือไม่ ถ้าคิดว่าไม่ต้องอยู่ในกรอบ ให้ร่างอะไรมาก็ได้ ทุกคนมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ “วันนี้ผมกังวลที่สุดคือความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม ชินแล้วกับคำพูดหยาบเคย ชินแล้วกับการใช้กริยาหยาบคาย ความรุนแรง การฝ่าฝืนกฎหมาย ท้ายสุดกลับมาด่าเจ้าหน้าที่ จะอยู่อย่างนี้ต้องไปหรือ ถ้าจะอยู่อย่างนี้ต่อไปก็แล้วแต่ รับผิดชอบร่วมกันทั้งฝ่าค้านและฝ่ายรัฐบาล”

พล.อ.ประยุทธ์ทิ้งท้ายว่า เรื่องปฏิรูปการเมือง รับฟังทุกฝ่าย มีความเห็นชอบร่วมกันอย่างไร ตนไม่อาจก้าวล่วง จะอยู่ ไม่อยู่ ไม่ใช่เรื่อง เป็นเรื่องของประชาชน เรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.เลือกตั้ง และ พ.ร.บ. พรรคการเมือง ท่านต้องทำให้เร็ว ทำให้ทัน เป็นไปตามขั้นตอน“หากมีอะไรที่เป็นข้อเท็จจริง ที่ผมไปใช้ประโยชน์ ผมจะรับไปแก้ไข ขอบคุณฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะแพง จะจน จะพังทั้งแผ่นดิน ผมรับได้หมด ต่างคนต่างเล่นกันคนละบทบาทอยู่แล้ว ถ้าให้ผมเป็นพระลักษณ์ พระรามก็แล้วแต่ ท่านอยากเป็นทศกัณฐ์ก็แล้วแต่ ดูหนัง ดูละคร ก็ขอให้ย้อนดูตัวคนเล่นละครด้วย ผมก็ถูกท่านดูอยู่ และทุกคนก็ต้องดูตัวละครอื่น ๆ ด้วย มันถึงจะสำเร็จ ประเทศไทยใหญ่กว่ารามเกียรติ์เยอะ”