จนท. ตำรวจ ทหาร สนธิกำลัง ปิดล้อม กลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ จะนะ สงขลา ก่อนถูกสาดกระสุนเข้าใส่ จึงใช้กำลังตอบโต้ก่อนสังหารดับ 3 ศพ และ ยอมมอบตัว1 ราย ขณะมีกระแสข่าวใส่ร้าย จนท.บุกยิงชาวมุสลิมขณะละหมาดในมัสยิด
วันที่ 3 ก.พ. 65 เวลา 05.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังเข้าติดตามบังคับใช้กฎหมายต่อคนร้ายตามหมาย ป.วิอาญาที่พบความเคลื่อนและเข้ามาหลบซ่อนบริเวณใกล้มัสยิดนูรุลอีมาน บ.โคกเค็ด ม.6 ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา โดยได้ขอรับการสนับสนุนกำลังฝ่ายทหารเข้าสนับสนุนในฐานะเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน จากนั้นได้ขอความร่วมมือผู้นำ 4 เสาหลักในพื้นที่และเครือญาติ ช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายออกมามอบตัวแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. คนร้าย จำนวน 4 คน พร้อมอาวุธครบมือ ได้เปิดฉากยิงใส่ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัวเองโดยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย
1. นายสุรินทร์ กาเส็ง อายุ 26 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 6 หมาย และหมาย พรก. ฉุกเฉิน จำนวน 1 หมาย 2. นายอดินันท์ ดอเลาะ อายุ 28 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 1 หมาย และหมาย พรก.ฉุกเฉิน จำนวน 1 หมาย 3. นายศรัทธา อาแว อายุ 33 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย
โดยทราบว่ามีคนร้ายอีก1รายหลบซ่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าวจึงได้ปิดล้อมไว้ ล่าสุดผลจากการเจรจาคนร้ายได้ยินยอมออกมามอบตัวทราบชื่อนายจิรศักดิ์ เพ็งเลาะ ผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการมีหมายจับป.วิอาญารวม8หมาย และได้ส่งเข้ารักษาตัวที่ร.พ.จะนะเนื่องจากได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการปะทะปัจจุบันอาการปลอดภัย
นอกจากนี้ยังตรวจยึดอาวุธปืนได้4กระบอก ประกอบด้วย AK – 47 จำนวน 1 กระบอก, ปืนติดกล้องเล็งแบบซุ่มยิง 1กระบอก ปลย.ขนาด5.56จำนวน1กระบอก และ ปืนพกขนาด .38 1 กระบอก ซึ่งจะได้นำไปตรวจพิสูจน์หาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไป จากประวัติและพฤติกรรมของคนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย พบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการและระดับปฏิบัติการ มีหมายจับรวมกันถึง20หมายเคยก่อเหตุความรุนแรงที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2562 ถึง ปัจจุบัน
ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุได้มีการใช้สื่อโซเชียล บิดเบือนกล่าวหา”เจ้าหน้าที่เข้าไปยิงคนมุสลิมเสียชีวิต 3ศพ ขณะละหมาดในมัสยิด” และ อีกหลายๆประเด็น โดยกอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ขอยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เป็นความจริง เพราะจุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงมัสยิด มิใช่ในมัสยิดตามที่กล่าวอ้าง จึงใคร่ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายกรุณาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้านก่อนที่จะแชร์ออกไป เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อเหตุรุนแรงและอาจมีความผิดตามกฏหมาย
โดยการปฏิบัติในครั้งนี้ เป็นการใช้อำนาจตามกฏหมายปกติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยร้องขอกำลังทหารเข้าสนับสนุนในฐานะเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานเท่านั้น ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ยังคงยืนยันในเจตนารมย์ในการบังคับใช้กฏหมายโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักเน้นการเจรจาให้ออกมามอบตัวเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสีย ดังเช่นกรณีขอ งนายจิรศักดิ์ เพ็งเลาะซึ่งได้ออกมามอบตัว และ สามารถเข้าพิสูจน์ตัวเองต่อสู้คดีตามกระบวนการทางกฏหมายที่พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมกับต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน อย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดทั้งการให้ที่พักพิง เก็บซ่อนอาวุธ หรือ จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ