กางหนังสือ ‘ส.ส.สมศักดิ์’ ตีแผ่ข้อเท็จจริง ระบุชัด เป็นเกมการเมืองภายใน ที่ “บิ๊กป้อม” วางแผนให้ 21สส.กลุ่มธรรมนัส ย้ายไปสังกัด พรรค ‘เศรษฐกิจไทย’
22 ม.ค.2565 – จากกรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) มีมติให้ กลุ่ม21 ส.ส.”ธรรมนัส” พ้นจากสมาชิกพรรค แต่ต่อมาปรากฎว่า นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา ซึ่งมีชื่อเป็น 1 ใน 21 ส.ส. ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เรื่อง “ขอให้ทบทวนมติพรรคพลังประชารัฐ ให้สมาชิกออกจากการเป็นสมาชิกพรรค”
โดยหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหายาวถึง 8 หน้า ช่วงหนึ่ง ระบุไว้น่าสนใจ ว่า “…ต่อมาวันที่ 19 มกราคม 2565 มีการส่งข้อความทางไลน์ให้ข้าพเจ้ามาร่วมประชุมกับหัวหน้าพรรคที่มูลนิธิป่ารอยต่อ เมื่อข้าพเจ้าไปถึงห้องประชุมที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ปรากฎว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนประมาณยี่สิบคน อยู่ในห้องประชุม
เมื่อหัวหน้าพรรคเข้ามาในห้องประชุมได้แจ้งว่า ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า จะออกจากพรรค โดยจะมีการย้ายไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย และจะให้ พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นหัวหน้าพรรค ให้ นายอภิชัย เตชะอุบล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเลขาชิการพรรค และให้ พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นที่ปรึกษาพรรค
โดยจะให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐที่เป็นกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ที่รวมตัวกันอยู่ในห้องประชุมนั้นย้ายไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมกับ ร.อ. ธรรมนัส ด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่นำใบสมัครสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยมาให้ข้าพเจ้า และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐที่อยู่ในห้องประชุมลงนาม
ข้าพเจ้าจึงเพิ่งจะทราบความจริงว่าที่ นายวิรัชฯ บอกกับข้าพเจ้าว่านำชื่อข้าพเจ้าไปอยู่กับ ร.อ.ธรรมนัสฯ นั้น แท้จริงแล้วหมายความว่จะให้ข้าพเจ้าย้ายไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทยร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส นั่นเอง
ขณะนั้นมีการอ่านชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐที่ยังไม่มาประชุมซึ่งมีชื่อของ นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ส.ส. กำแพงเพขร ด้วย ข้าพเจ้าจึงเดินออกจากห้องประชุมโดยวางใบสมัครสมาชิกพรรดเศรษฐกิจไทยทิ้งไว้ ไม่นำติดตัวออกมา
ช่วงที่เดินออกจากห้องประชุมนั้นข้าพเจ้าพบกับนายอนุชา นาคาศัย และนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส. ของพรรคที่เป็นรัฐมนตรีด้วย ข้าพเจ้าจึงพูดกับคนทั้งสองว่า ข้าพเจ้าไม่ย้ายไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย….”