พูดแล้วทำ ! “อนุทิน” ชูแคมเปญภูมิใจไทย รับศึกเลือกตั้ง ยก คลายล็อกกัญชา – พัฒนาระบบ สธ. – ลงทุนคมนาคม – วางมาตรฐานโฮมลอดจ์ – แก้ปัญหา กยศ. เป็นผลงานเด่น ที่ปฏิบัติได้จริงเป็นรูปธรรม
วันที่ 19 ธ.ค. 2564 ที่ อินดอร์ สเตเดียม(ชาติชาย ฮอลล์) อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ได้จัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 มีผู้บริหารของพรรค เข้าร่วมงานอย่างครบถ้วน ท่ามกลางการใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,500 คน ซึ่งกำหนดว่า ต้องได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว และมีใบรับรองแพทย์ว่าตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเข้าร่วมงาน โดย มีวาระสำคัญ คือ เรื่องเพื่อพิจารณา 1.การเลือกตั้ง กรรมการบริหารพรรค เพิ่มขึ้นอีก 1 ตำแหน่ง 2.การพิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการดำเนินกิจการของพรรคภูมิใจไทย 3.พิจารณาอนุมัติงบการเงิน 2563 และ 4.เลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง 11 คนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวเปิดงานว่า นับจากนี้ ไม่เกิน 15 เดือน การเลือกตั้งจะต้องเริ่มต้นขึ้น พรรคภูมิใจไทย ต้องเตรียมความพร้อม เป็นที่มาของกิจกรรมพรรคครั้งนี้ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา นับจากพรรคภูมิใจไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จนถึงที่ได้มีโอกาสร่วมรัฐบาล และทำงานตอบแทนประชาชน เราทำงานหนัก ภายใต้จุดเด่น คือ เอกภาพภายในพรรค ซึ่งอยู่ร่วมกันอย่างให้เกียรติ เคารพกันและกัน เราเป็นพรรคที่สร้างความมั่นคงให้ระบบรัฐสภา และเรารักษามารยาทในการอยู่ร่วมกัน เราเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน และคลายกฎกรอบ ให้คนไทย มีช่องทางการทำมาหากินเพิ่มขึ้น จุดเด่นของเราคือ เราพูด แล้วทำ นโยบายของเราคือ เอาปัญหาของประชาชนมากาง แล้วหาทางแก้ไขขอย้อนกลับไป ในวันที่เราหาเสียงเลือกตั้ง ที่ได้ให้คำมั่นว่า จะทำให้กัญชากลายเป็นยารักษาผู้ป่วย พรรคภูมิใจไทยมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ และเราประสบความสำเร็จในการนำกัญชาออกมาจากกฎหมายยาเสพติด และตั้งแต่ได้เข้ามาดูแลกระทรวงสาธารณสุข เราเปิดคลินิกกัญชาไปแล้วกว่า 700 แห่ง ดูแลประชาชนกว่า 2 แสนคน จ่ายน้ำมันกัญชาไปแล้ว 5 แสนขวด และจ่ายยากัญชาไปแล้ว 3 ล้านเม็ดเป้าหมายต่อมาคือ การทำให้กัญชา สามารถปลูกได้ในครัวเรือน ในอนาคต ประชาชนต้องปลูกได้ เพียงแต่ต้องมีการจดแจ้งเท่านั้น การปลูกกัญชาเพื่อใช้ในครัวเรือนต้องไม่ผิดกฎหมาย กฎหมาย จะนำไปควบคุมดูแลการปลูกของรายใหญ่ ที่ปลูกส่งโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีการประกาศแนวทางปฏิบัติต่อไป
ปัญหาโควิด-19 ได้คุกคามคนทั้งโลก แต่ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ส่งผลให้ประเทศไทย สามารถจัดการสถานการณ์ต่างๆ ได้รวดเร็ว ล่าสุด มีรายงานมาแล้ว ว่า เราสามารถฉีดวัคซีนได้ถึงเป้าแน่นอน ปัจจุบัน มีผู้ได้รับเข็ม 3 ไปแล้ว กว่า 6 ล้านคน ในปีหน้า จะเป็นปีแห่งการฉีดเข็มกระตุ้น และจากที่ได้ไปประชุมสมัชชาอนามัย ปรากฏว่าทาง WHO ชื่นชมในระบบสุขภาพของไทย ล่าสุด สถาบันวิจัยระดับโลก ก็ยกให้ระบบสาธารณสุขไทย อยู่ในอันดับที่ 5 ในเรื่องของระบบความมั่นคงด้านสุขภาพ จะเห็นว่า สิ่งที่เราพูดไว้ เป็นไปตามที่พูดขณะที่บุคลากรการแพทย์ เราไม่ทอดทิ้ง ได้บรรจุข้าราชการใหม่ไปแล้วกว่า 4.1 หมื่นอัตรา ไปจนถึงการให้ค่าตอบแทนพิเศษแก่ อสม. จนสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 นอกจากนั้น เรายังพัฒนาระบบบริการ ให้ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น 30 บาท รักษาทั้งทุกโรค และทุกที่ เราวางเป้าหมายว่า ประเทศไทยต้องไม่มีคนไข้อนาถา การบริการของเราจะต้องเท่าเทียม และทั่วถึง
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ประเทศไทย มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชื่อ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ท่านเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ที่ใส่ใจกับชีวิตประชาชน พี่น้องคนไทย เบื่อหน่าย กับการถูกจำกัดความเร็ว ทั้งที่ รถก็ดี ถนนก็ดี แต่ไม่สามารถ ใช้รถ ใช้ถนน ให้เต็มศักยภาพได้ นายศักดิ์สยาม จึงได้เข้ามาแก้ไขกฎหมาย ให้ถนนบางเส้น สามารถขับขี่ได้ถึง 120 กม./ ชั่วโมง แล้ว ประหยัดเวลาให้ประชาชน อีกเรื่องที่เคยพูดไว้ คือ การเรียกรถผ่านแอปฯ ต้องเป็นบริการที่ถูกกฎหมาย ซึ่งเราทำสำเร็จแล้ว ไปจนถึงการให้ประชาชนขึ้นทางด่วนฟรี ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายคนไทยนอกจากนั้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เราได้เดินหน้าโครงการสำคัญมากมาย เพื่อยกระดับการสัญจร และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ เช่น การก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 หรือ มอเตอร์เวย์ บางปะอิน – นครราชสีมา ใช้เงินลงทุน 84,600 ล้านบาท จะเปิดใช้เร็วๆ นี้ เพื่อให้การเดินทางของประชาชน และการขนส่งสินค้าไปขาย ใช้เวลาน้อยที่สุด และลดค่าใช้จ่าย ได้มากที่สุด
รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ – หนองคาย ระยะทาง 253 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนกว่า 1.79 แสนล้านบาท จะมีการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีงานทำ มีเงินใช้ อยู่ดีกินดี และ จะได้รับความสะดวกในการเดินทางอย่างมาก รวมไปถึงโครงการ รถไฟทางคู่ เชื่อมโยงการเดินทาง ขนส่งในภาคอีสาน ใช้เงินลงทุน1.7 แสน ล้านบาท จะเป็นการพัฒนาการขนส่งระบบรางครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ทุกโครงการ เรากำหนดเงื่อนไขว่า ต้องจ้างคนไทย และใช้วัสดุจากไทย เพราะเราต้องการให้เม็ดเงินกระจายในประเทศ ให้มากที่สุดขณะเดียวกัน เมื่อโควิด-19 คลี่คลาย ก็เป็นเวลาที่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว จะต้องกลับมาสร้างรายได้ให้คนไทย พรรคภูมิใจไทย กำลังเดินหน้านโยบายเปลี่ยน บ้านของประชาชน ให้กลายเป็นที่พัก ไปจนถึงเป็นโรงแรงระดับ 5 ดาวที่ต้องการเข้ามาพักผ่อนแบบโฮมสเตย์ เราจะออกตราโฮมลอดจ์ เพื่อกำหนดมาตรฐานของที่พักนักเดินทาง นโยบายนี้ จะสร้างเม็ดเงินให้ชาวบ้านนับแสนล้านบาท และกำลังได้รับการขับเคลื่อนโดยนายพิพัฒน์ ริชกิจประการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ขณะที่รัฐมนตรีท่านอื่นๆ ล้วนมีผลงานที่จับต้องได้ เป็นที่ประจักษ์ โดยนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสบความสำเร็จในเรื่องการแบนสารพิษ , ดร. ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าไปพัฒนาระบบประปาทั่วไทย ไปจนถึงการแก้ปัญหาเรื่องสาธารณูปโภค , ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยกว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาการศึกษาไทย ทลายข้อจำกัดด้านการเรียนการสอน ขณะที่ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ผ่านโครงการต่อภาษีออนไลน์เราประกาศนโยบายให้การกู้ยืมกองทุนกยศ. ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ไม่ต้องมีดอกเบี้ย ไม่ต้องมีเบี้ยปรับ เพื่อช่วยเหลือลูกหลานที่เป็นลูกหนี้ และพ่อแม่ ญาติพี่น้องที่เป็นผู้ค้ำประกัน ที่กำลังเป็นทุกข์ วันนี้ เราทำได้สำเร็จแล้ว พรรคภูมิใจไทยทั้งผลักดัน กดดันจนกระทั่งกองทุนกยศ. เปลี่ยนระเบียบการกู้เงินกยศ. เป็นไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แล้ว พรรคภูมิใจไทย จะเดินหน้าผลักดัน และกดดันต่อไป เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกหลาน หมดหนี้หมดสิน พ้นสภาพลูกหนี้ กยศ. ได้มากที่สุด เร็วที่สุด รวมไปถึงการพักหนี้ พักดอกเบี้ย กยศ. และไม่ให้มีการฟ้องบังคับคดี สำหรับลูกหลาน และลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ด้วย
“ตอนนี้ เรากำลังเผชิญกับวิกฤติโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อประเทศไทย สร้างปัญหาให้กับประชาชน สำหรับพรรคภูมิใจไทย เราเกิดจากประชาชน ได้รับโอกาสจากประชาชน เราจะพาประชาชนไปให้รอด นี่คือ ภารกิจของพวกเราทุกคนพรรคภูมิใจไทย จะนำคนไทยรอดจากเชื้อโรคร้าย คนไทยรอดจากหนี้สิน และความยากจน เราจะไม่ยอมให้ประชาชนถูกเอาเปรียบด้วยอำนาจที่ไม่เป็นธรรม กลับกัน กระทั่งปิดกั้นการทำมาหากินของประชาชน สำหรับ พรรคภูมิใจไทย เรามีแค่ 3 คำที่ต้องการจะเน้นย้ำคือเรา พูด แล้ว ทำ”