ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เช็กวงจรปิดพบมือระเบิดดักสังหารพระ ทหารชุดคุ้มครอง เป็นชายแต่งฮิญาบ นำภาพเทียบเคียงประวัติคดีความมั่นคง เร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี ขณะมีรายงานเจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย แต่เจ้าตัวไหวตัวทันหลบหนี
จากกรณีคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุด รปภ.พระสงฆ์เดินบิณฑบาต สังกัดกรมทหารพรานที่ 46 ที่บริเวณถังใส่ขยะข้างตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ข้างบนเลขที่ 153 ถนนรือเสาะสนองกิจ หมู่ 10 ต.รือเสาะจ.นราธิวาส เมื่อเช้าตรู่วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ อส.ทพ.อนันต์ รัตนบุรี และ อส.ทพ.ฤทธิพร ทองแก้ว ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรือเสาะ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 13 ธ.ค.2564 พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้า 2 จุด จากเส้นทางตลาดรือเสาะมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายเอาไว้ได้ โดยเสาไฟฟ้าจุดแรกที่ติดตั้งไว้บริเวณถนนฟาดทางรถไฟของสถานีรถไฟรือเสาะ สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ ในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 10 ธ.ค.64 มีคนร้าย 3 คน ขี่รถ จยย.แบบผู้หญิง 2 คัน โดยคันนำหน้าเป็นผู้ชายขี่คนเดียว ส่วนหลังที่ 2 ซึ่งขี่ตามหลัง คนขี่เป็นผู้ชาย ส่วนคนนั่งซ้อนท้ายเป็นผู้ชายแต่อำพรางสวมใส่ชุดสุภาพสตรี หรือ ฮิญาบ ซึ่งในมือทั้ง 2 ข้างมีลักษณะประคองถุงพลาสติกสีดำ ขับขี่วนเวียนอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ เหมือนลักษณะคล้ายกับหาจุดวางระเบิด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไล่กล้องวงจรปิดที่บริเวณจุดเกิดเหตุระเบิดและพบว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ทั้ง 3 คน ในเวลา 18.28 น.ของวันเดียวกัน โดยคนร้ายทั้ง 3 คน ได้จอดรถจยย. แล้วให้ผู้ชายที่แต่งกายในชุดสุภาพสตรี หรือ ฮิญาบ ลงจากเบาะนั่งของรถ จยย.คันที่ 2 ถือถุงพลาสติกสีดำไปวางพิงไว้ข้างถังใส่ขยะขนาดบรรจุ 200 ลิตร ในการปะปนกับขยะมูลฝอยที่วางเกลื่อนกลาดรอบถัง จากนั้นเมื่อวางถุงพลาสติกสีดำซึ่งมีระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนอยู่ภายใน คนร้ายทั้ง 3 คน ต่างพากันขี่รถจยย.โดยมุ่งหน้าหลบหนีเข้าไปในซอยบาเร๊ะ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 40 เมตร ที่มีสภาพเป็นถนนซอยมีผู้คนอาศัยอยู่น้อย แถมยังมีป่าที่รกทึบทั้ง 2 ข้างทาง ซึ่งง่ายต่อการหลบหนีหลังวางระเบิดแล้วเสร็จ
“ภาพกล้องวงจรปิดทั้ง 2 จุด ที่สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญในการนำภาพให้คมชัด เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับรูปพรรณสัณฐานของกลุ่มบุคคลที่อยู่ในทำเนียบก่อเหตุคดีความมั่นคง รวมไปถึงบุคคลที่เคยก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่ อ.รือเสาะ พร้อมได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ชุดนอกเครื่องแบบในการแกะรอยพฤติกรรมบุคคลต้องสงสัยในทางลับ เพื่อนำข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เมื่อพบว่ามีหลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้าที่ก็จะเชิญตัวมาทำการสอบสวนปากคำ ซึ่งเป็นแนวทางในการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย” พล.ต.ต.แวสาแม กล่าว
ด้านแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ซึ่งเป็นชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง เปิดเผยว่า หลังจากคนร้ายลอบก่อเหตุจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุด รปภ.พระสงฆ์วัดราษฎร์สโมสร ในช่วงบ่ายของวันเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ใช้กฎอัยการศึกในการปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านสะโล หมู่ 7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ แต่พบว่าบุคคลต้องสงสัยคนดังกล่าวไม่ได้อาศัยอยู่บ้านพัก คาดว่าไหวตัวหลบหนีไปได้