“ทิดไพรวัลย์”เปิดใจหลังสึก ไม่อยากก้มหัวให้ใคร ฉะสำนักพุทธฯ”อยากคุมหัวโล้น”

“ทิดไพรวัลย์” เปิดใจหลังสึก เผยเหตุลาสิกขา ไม่อยากก้มหัวให้ใคร ที่ไม่มีคุณธรรมมากพอ ที่จะไหว้อย่างสนิทมือ พร้อม ฉะยับ สำนักพุทธศาสนา เป็นพวกหัวดำ แต่อยากมาคุมหัวโล้น

วันที่ 3 ธ.ค.2564 อดีตพระมหาไพรวัลย์ หรือ “ทิดไพรวัลย์” นายไพรวัลย์ วรรณบุตร เปิดใจครั้งแรก กับ รายการโหนกระแส ที่มี นายกรรชัย กำเนิดพลอย เป็นพิธีกร ถึงการลาสิกขาบท ว่า ว่า ตอนแรกตนจะสึกวันที่ 4 ธ.ค. แต่กลัวสื่อตามมาเลยตัดสินใจสึกวันที่ 3 ธ.ค.แทน สาเหตุที่สึกมีหลายเงื่อนไข โดยเฉพาะเรื่องแม่ วันนี้แม่ต้องเข้าผ่าตัดใหญ่ที่ก้อนเนื้อมะเร็ง จึงอยากไปให้กำลังใจ แม่ผ่าตัดเสร็จจะได้ดูแลแม่ยาวๆ

“เรื่องรักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองก็เป็นประเด็นหนึ่ง บวกกับแม่ป่วยมะเร็งและเวลาเหลือน้อย จึงตัดสินใจออกมาทำหน้าที่ดูแลท่าน” เมื่อถามว่าจะสึกมาคิดบัญชีใช่หรือไม่ นาย ไพรวัลย์ กล่าวว่า ขอใช้คำว่าเริ่มมาใช้ชีวิตฆราวาส ไม่ได้เปิดศึกกับใคร แต่หากมีเรื่องที่พูดแทนพระสงฆ์ได้ก็จะทำ โดยจะพูดตรงๆ ด้วย เดี๋ยวเจอกันครับ อีกทั้งอยากกลับไปบ้านและดูแลแม่ด้วย

“สังคมสงฆ์ตอนนี้คับแคบกว่าฆราวาส เพราะเราทำอะไรที่เป็นตัวตนของเราไม่ได้ ด้วยกฎระเบียบบางอย่าง จึงคิดว่าสึกดีกว่า วงการสงฆ์ก็มีการเมือง อย่างที่ตอนบวชก็เจอเรื่องร้องเรียนมากมาย มีจีวรไม่พอยังเอาปลอกคอมาใส่ให้อีก ยังเอามติมาบีบกันอีก ไม่ควรใช้อำนาจมาแทนความเป็นธรรม”…“ถ้าผู้ใหญ่ที่มีอยู่ ทำให้เราไม่อยากก้มหัวให้ ถ้าเป็นพระมีคุณธรรมและเป็นผู้ใหญ่ เราก็อยากอยู่ แต่บางเรื่องมันไม่ใช่ ยืนยันจะไม่กลับไปบวชอีก ชีวิตต้องไปต่อ ตัดสินใจไม่นานว่าจะสึก ไม่รู้จะเสียดายเวลาอะไร เพราะที่เราเรียนมาก็ยังอยู่ แค่ความเป็นพระหายไปเท่านั้น เรายังรู้ธรรมะคืออะไร”

“ถ้าจะให้พูดสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติก็ต้องจัด แต่เรื่องคณะสงฆ์ขอไม่พูด เรื่องของผมที่ถูกร้องให้สอบ พบถูกร้องโดยสำนักพุทธฯ ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ โดยต้องทำหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนา จึงอยากให้เอาคนในสำนักพุทธฯ มาบวชบ้าง ก็แค่เป็นพวกหัวดำอยากคุมหัวโล้น”…เมื่อถามถึงประเด็นถูกกล่าวหามีเงิน 300 ล้าน มหาไพรวัลย์ เผยว่า ดีนะขอโทษแล้ว ไม่งั้นฟ้องไปแล้ว แต่สงสารนักข่าว ช่องก็ลอยนวล เรารู้ว่าไม่ชอบเรา แต่ต้องเสนอข่าวตามข้อเท็จจริง คิดว่าเราเป็นอะไร เจ้ามือหวยใต้ดินหรือ ซึ่งพระมี 300 ล้านอาจมีก็ได้ เพราะอาจบวชมานาน

“เงินทองก็ไม่ได้เยอะอะไร หนังสือธรรมะเอาไว้ก็คงไม่มีใครอ่าน จึงขอเอากลับมา ทรัพย์สินที่ได้ตอนบวชก็แค่ตอนทำกับพระมหาสมปอง ในช่วงที่เราไปให้ความรู้คนอื่น ซึ่งของไม่ได้เยอะขนาดนั้น” และ เมื่อถามว่ามีทั้งคนรักและไม่ชอบ มหาไพรวัลย์ เผยว่า ไม่ได้แคร์อะไรเลย ต้องถามใจคนพูดก่อน