รมว.สาธารณสุข ชี้ นโยบายกัญชา เดินหน้าเป็นรูปธรรมแล้ว วางเป้า ทลายทุกข้อจำกัด ประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด เตรียมผลักดัน แก้ไขกฎหมาย เพื่อตั้งหน่วยงานกลางรวบรวมการใช้กัญชาเป็นยารักษาโรค
วันที่ 6 พ.ย.2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้กัญชาทางการแพทย์ฯ เขตสุขภาพที่ 8 วิสาหกิจชุมชน เกษตรอินทรีย์และแปรรูปสมุนไพร ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ว่า ตอนนี้ มีวิสาหกิจชุมชนจำนวนมากทั่วประเทศ รวมตัวกันปลูกกัญเพื่อส่งสถานพยาบาลนำไปสกัดเป็นยารักษาโรค ประชาชนนิยมอย่างมาก ประเทศไทย มีคลินิกกัญชาหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ มีผู้เข้าใช้บริการไม่ขาดสาย รู้สึกยินดี ที่คนไทยเปิดรับกัญชามากขึ้น ขอย้ำว่า เป้าหมายของตนคือ ต้องให้กัญชาเป็นได้ทั้งพืชเศรษฐกิจ และยารักษาโรคซึ่งเราเข้าใกล้เป้าหมายในทุกวัน ในเรื่องการสาธารณสุข สถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข และของหน่วยงานอื่นไปจนถึงเอกชน ได้ให้บริการตำรับยากัญชาแล้ว จากที่เมื่อก่อน เรื่องแบบนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับในแง่เศรษฐกิจ ที่ ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ก็จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของกัญชาแล้ว เราเปิดช่องกว้างๆ ให้มีการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ แต่ขอว่า ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ และหลักเกณฑ์ ที่ว่า ก็ไม่ได้ยาก จนทำไม่ได้ เพราะมีผู้ที่ทำแล้วสำเร็จ จำนวนมาก มันอาจจะวุ่นวายบ้าง แต่ขอให้เข้าใจว่า กัญชา ยังเป็นยาเสพติด และยังติดกฎหมายระหว่างประเทศ ตรงนี้ ต้องค่อยเป็น ค่อยไปส่วนตัว กำลังพยายาม หาช่องทางคลายล็อกการใช้กัญชา ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ให้ประชาชน ได้ประโยชน์สูงที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้ นั่นหมายถึง แม้ว่านโยบายจะมีความเป็นรูปธรรมแล้ว แต่เรายังไม่หยุดแน่นอน ต้องเดินต่อ เดินไปให้ไกลจากจุดเริ่มต้น และให้เข้าใกล้เป้าหมาย กระทรวงสาธารณสุข ได้แก้กฎกระทรวง ได้ออกคำสั่งไปหลายฉบับ และเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้เราเห็นประเทศไทยมีคลินิกกัญชา เห็นคนไทย ขายพิซซ่ากัญชา บราวนี่กัญชาได้ จากที่เมื่อก่อนต้องแอบซื้อแอบขาย ปัจจุบัน ก็มีขายอยู่ทั่วไปนอกจากนั้น ทางพรรคภูมิใจไทย ก็กำลังผลักดันกฎหมายที่สำคัญ คือ พ.ร.บ. ยาเสพติดฉบับแก้ไข ไปจนถึงการกฎหมายการตั้งหน่วยงานกลาง ขึ้นมารวบรวมตัวเลขการผลิต และการใช้กัญชา เพื่อให้สอดรับกับความต้องการตามสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งกฎหมายเหล่านี้ เมื่อผ่านสภา นี่จะเป็นความคืบหน้าที่สำคัญของนโยบาย ประชาชนจะเข้าถึงกัญชาได้มากขึ้น อย่างไม่เคยมีมาก่อน เรารู้ว่า เรื่องกัญชามีข้อจำกัดมาก รู้ตั้งแต่ตอนหาเสียง แต่ได้พยายามทลายข้อจำกัด เพื่อให้นโยบาย กลายเป็นการปฏิบัติ และทำได้แล้ว มีความเป็นรูปธรรมแล้ว แต่เราต้องทำต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงที่สุด