วาระครบรอบ5ปี การเสด็จสู่สวรรคต พระเจ้าอยู่หัว ร.9 จึงขออัญเชิญ พระบรมราโชวาท เพื่อให้พสกนิกรได้ ปลื้มปิติ และ เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท สร้างแรงบันดาลใจ รำลึกถึงพระองค์ตราบนานเท่านาน
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็น “พ่อแห่งแผ่นดิน” นับตั้งแต่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ ทรงมีพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้เราทุกคนรู้หน้าที่แห่งตน ดำรงตั้งมั่นอยู่ในความดี ความสงบเรียบร้อยอย่างมากมาย
การเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 นำมาซึ่งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทยและประชาคมโลก ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมาครบ 5 ปี แห่งการเสด็จสู่สวรรคาลัย แต่พระองค์ยังทรงสถิตอยู่ในดวงใจนิรันดร์ เนื่องในวาระครบรอบวันสวรรคต เพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ จึงขออัญเชิญพระบรมราโชวาทพระราชดำรัส ของ “พ่อหลวง” ทรงสอนไว้ มิใช่เพียงคำพูดสวยงาม แต่ทรงกระทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ตลอด 70 ปีแห่งรัชสมัยของพระองค์
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระปฐมบรมราชโองการ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493
“สามัคคีนี้ก็คือ การเห็นแก่บ้านเมือง และช่วยกันทุกวิถีทาง เพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้เข้มแข็ง ด้วยการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน และทํางานด้วยการซื่อสัตย์สุจริต ต้องส่งเสริมงานของกันและกัน และไม่ทําลายงานของกันและกัน มีเรื่องอะไรให้ได้พูดปรองดองกัน อย่าเรื่องใครเรื่องมัน และงานก็ทํางานอย่างตรงไปตรงมา นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม” พระราชดํารัสที่พระราชทานในพิธีประดับยศนายตํารวจชั้นนายพล 15 มกราคม 2519
“การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมาก ไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 25 กรกฎาคม 2506
“ผู้หนักแน่นในสัจจะ พูดอย่างไรทำอย่างนั้น จึงจะได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธา เชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญจากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือพูดจริงทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 10 กรกฎาคม 2540
“ต่างคนต่างมีหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำเฉพาะหน้าที่นั้น เพราะว่าถ้าคนใดทำหน้าที่เฉพาะของตัว โดยไม่มองไม่แลคนอื่น งานก็ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเหตุว่างานทุกงานจะต้องพาดพิงกัน จะต้องเกี่ยวโยงกัน ฉะนั้นแต่ละคน จะต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่น แล้วช่วยกันทำ” พระราชดำรัส พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2533
“ในบ้านเมืองนี้มีทั้งคนดีและคนไม่ดีไม่มีใครที่จะทําให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทําให้ บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทําให้ทุกคนเป็นคนดีหากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอํานาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้” พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมชนลูกเสือแห่งชาติค่ายลูกเสือวชิราวุธจังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512
ทั้งหมดนี้ คือบางส่วน ของ พระบรมราโชวาท และ พระราชดำรัสของพระองค์ ซึ่งแต่ละข้อความนั้น ล้วนแฝงไปด้วย หลักการดำเนินชีวิต คติสอนใจ อันทรงคุณค่าอย่างยิ่ง