ส.ส.-ส.ว.หายหัว ทำประชุม “รัฐสภาล่ม”เป็นครั้งแรก ขณะที่ ภท.ชงเข้มขาด 1 ครั้งปรับ 1 หมื่น ด้าน “ประธานชวน” สะบัดมีดโกน กรีดฉับ อยู่ที่ความรับผิดชอบ ก่อนสั่งปิดประชุม หลังสั่งนับองค์ประชุมไม่ครบ
วันที่ 10 ก.ย.2564 การประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรรม พ.ศ…. ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่มีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล เป็นประธานฯ ได้พิจารณาแล้วเสร็จ โดยที่ประชุมได้พิจารณาเนื้อหาเรียงลำดับรายมาตรา ทั้งนี้พอถึงมาตรา 4 นั้น พบว่ามีสมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุมมีจำนวนน้อย และนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประะชุม ลืมตรวจสอบองค์ประชุม และสั่งให้ลงมติ ทำให้นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ทักท้วงว่า ไม่ได้เช็คองค์ปรชะชุมก่อนลงมติ และหลังการลงมติแล้วพบเสียงรวมกัน มีเพียง 349 เท่านั้น ไม่ครบองค์ประชุมทำให้นายชวน ต้องสั่งให้นับองค์ประะชุมอีกครั้งและพบว่ามีองค์ประชุมเพียง 370 เสียง ซึ่งเกินองค์ประชุมเพียง 5 เสียงเท่านั้นและลงมติใหม่
ต่อมาที่ประชุมได้พิจารณามาตรา 8 ซึ่งมีผู้อภิปรายจำนวน 3 คน ต่อมาเมื่อมีการอภิปรายเสร็จ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้ขอมติจากที่ประชุมว่าจะเห็นด้วยให้มีการแก้ไขหรือไม่ และรอสมาชิกมาลงมตินานเป็นเวลา 4-5 นาที ทำให้นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นหารือว่า ในการประชุมครั้งหน้า หากบรรยากาศเป็นอย่างนี้ เราควรนำวาระสำคัญ เช่น การพิจารณาโหวตรัฐธรรมนูญไปไว้วาระหลัง ไม่เช่นนั้นก็จะเจอสภาพแบบนี้
ด้านนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นเสนอว่า อยากให้แก้ข้อบังคับว่าหากใครขาด 1 ครั้ง ให้ปรับเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ทำให้นายชวน กล่าวว่า จริงๆแล้วเราจะทำอย่างไรก็ตามอยู่ที่ความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ถ้าเราขาดความรับผิดชอบ ก็เจอปัญหา แต่ว่าไม่บ่อย ครั้งนี้ประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรก ปกติประชุมสภาฯจะเจอบ่อย แต่เที่ยวนี้วุฒิสภาขาดมากกว่าเรา ทำให้จำนวนสมาชิกไม่ครบ
จากนั้นนายชวน ได้ตรวจสอบองค์ประชุมอีกรอบ ผลปรากฎว่า มีองค์ประชุม 355 คน ซึ่งไม่ครบองค์ประชุมที่ต้องได้ 365 คน ทำให้นายชวน กล่าวว่า หากใครอยู่แล้วไม่แสดงตน สามารถประกาศได้ เมื่อไม่ครบองค์ประชุม จึงต้องสั่งปิดการประชุม จากนั้นนายชวน ได้สั่งปิดประชุมในเวลา 16.08 น.และถือเป็นครั้งแรกที่การประชุมร่วมรัฐสภาระหว่าง
