“สองมหา”แจงกมธ. ชี้ ควรดูหนังให้จบก่อนตัดสิน ฝากนักการเมือง ต้องทำงานเป็น

“มหาสมปอง-มหาไพรวัลย์” เข้าแจง กมธ.ศาสนา ปมไลฟ์สด พร้อมฝากธรรมะ “จงลืมเสียเถิดความหลัง แล้วสร้างปัจจุบันเพื่ออนาคต” ก่อนฝากนักการเมือง “เมื่ออยากเป็น ก็ต้องอยากทำงานด้วย” พร้อม ระบุ รู้สึกตื่นเต้นนึกว่ามาเมืองคานส์

วันที่ 9 ก.ย.2564 เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสร้อยทอง เดินทางมารัฐสภาตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร นิมนต์ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกรณีเกิดกระแสวิจารณ์ในโซเชียลมีเดียถึงการออกมาไลฟ์สดทางโซเชียลโดยพระมหาสมปองให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าชี้แจงต่อ กมธ.ว่า วันนี้ ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย เหมือนกับที่อาตมาไลฟ์สดก็ไม่ได้เตรียมอะไร ดังนั้น ก็แล้วแต่ กมธ. ถามว่ามีประเด็นไหนบ้างที่เหมาะสม หรือไม่เหมาะสม ตรงไหนเกิน ตรงไหนขาด ถ้าเตือนก็คงน่าจะเป็นเสียงของพระมหาไพรวัลย์ ถ้าจะเติมก็เป็นเรื่องของธรรมะ จริงๆ แล้วการไลฟ์สดของอาตมาทั้ง 2 รูปที่ผ่านมา เป็นเพียงคาบเรียนแรก และเป็น 1 ชั่วโมงแรกที่เจอเด็กๆ เพื่อทักทายกันและให้เขาสนใจ แต่คาบต่อไปคือ วันนี้จะเข้าสู่เนื้อหามากขึ้น ซึ่งตอนนั้นเด็กๆ ก็คงจะเริ่มหลับกันแล้ว

ด้านพระมหาไพรวัลย์กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้ซีเรียสอะไร กมธ. นิมนต์มา เราก็ยินดีที่จะมาและยินดีตอบทุกคำถามอยู่แล้ว กมธ.อาจจะสงสัย ซึ่งเราก็เข้าใจท่าน เพราะบางเรื่องอาจจะทำแบบนี้ได้หรือไม่ เราก็จะตอบให้หมด ต่อข้อถามว่า กังวลหรือไม่ มีบางฝ่ายมองว่าการไลฟ์สดที่ผ่านมา ผิดพระธรรมวินัย ที่ไม่สำรวม พระมหาไพรวัลย์กล่าวว่า ไม่กังวล เมื่อวานนี้ (8 กันยายน) ได้คุยกับหลายท่านว่าสิ่งที่ทำไปนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร จริงๆ เรื่องเสียงหัวเราะไม่น่ามีปัญหาด้านพระมหาสมปองกล่าวเสริมว่า เรื่องนี้ไม่กังวล เพราะอาตมาคิดว่าผู้หลักผู้ใหญ่เป็นห่วง และกมธ.ก็มีหน้าที่อุปถัมภ์ คุ้มครองพระพุทธศาสนา ดังนั้น เราคิดว่าจะคุ้มครองและดูแลเรา อย่างไรก็ตาม หากใครเชิญให้ไปชี้แจง อาตมาก็จะไป และอาตมาอยากจะถามด้วยว่า กมธ.ศาสนา ที่คุ้มครองและอุปถัมภ์ศาสนา เราทำงานมาไม่ค่อยมีใครอุปถัมภ์ เราไปบรรยายที่นั่นที่นี้ ส่วนใหญ่โรงเรียนก็ดูแลเรา ต่อไปพระรุ่นใหม่ที่กำลังฝึกฝนตัวเองขึ้นมาแทนเรา กมธ.จะดูแลอย่างไร หรือว่ามีใครมาด่าลูกๆ ท่าน ซึ่งเราก็ดูเหมือนลูกศาสนา ท่านจะคุ้มครองเราอย่างไร จะคุ้มครองหรือทำลายเรา โดยเรื่องนี้อาตมาคิดไว้ในหัว ก็ไม่รู้จะกล้าถามหรือไม่

เมื่อถามว่า แม้จะเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ก็ยังจะไลฟ์สดเหมือนเดิมต่อไปหรือไม่ พระมหาสมปองกล่าว เราจะ “ล.ร.ร.” เราจะ “ไลฟ์เรียบร้อย” ทั้งนี้พระมหาไพรวัลย์กล่าวเสริมว่า การไลฟ์ ไม่ถึงกับเหมือนเดิม เราจะปรับให้ดีขึ้น และเมื่อถามอีกว่า ยังคงมั่นใจว่าการไลฟ์สดลักษณะนี้ ทำให้เยาวชนหันมาฟังธรรมะมากขึ้นใช่หรือไม่ พระมหาสมปองกล่าวว่า เชื่อมือเราเถอะ อาตมาบรรยายธรรมมา 20 กว่าปี ตั้งแต่ยังไม่ออกทีวี เราทำงานเก็บผู้ฟังอย่างไร ให้อะไรตอนไหน เรามีจังหวะนั้นอยู่แน่นอน แต่การไลฟ์วันแรกก็อย่างที่บอกยังงงกับเด็กนักเรียนอยู่ แล้ว ผอ.มาดุว่า 2 คนนี้สอนอะไรกันเสียงดังไปห้องข้างๆ แล้วท่านก็มาบอกว่าควรจะสอนอย่างนี้ อย่างนั้น เพื่อเกิดความเหมาะสม ซึ่งอาตมามองตรงนั้นมากกว่าทั้งนี้ผู้สื่อข่าวขอให้ พส.ทั้ง 2 รูปฝากธรรมะด้วย โดยพระมหาสมปองกล่าวว่า “จงลืมเสียเถิดความหลัง แล้วสร้างปัจจุบันเพื่ออนาคต” บางท่านก็ยึดติดกับความหลัง และไปรื้อฟื้นต่างๆ มา เหมือนกับไปรื้อฟื้นคลิปเก่าๆ ของพระมหาไพรวัลย์ ที่มีคนฟังหลักสิบหลักร้อย แต่ถ้ารื้อฟื้นแล้วเป็นบทเรียนที่เป็นประโยชน์ก็ดี แต่อย่างไรเราก็สร้างปัจจุบัน เน้นเผยแผ่ศาสนา เหมือนเรามาพรีเซนต์หน้าห้อง แล้วพระอาจารย์บอกว่าอันนี้ไม่ดีต้องกลับไปแก้ไข เราก็พร้อมทำอยู่แล้ว เราเป็นพระเด็กๆ ก็พร้อมที่จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ พระมหาสมปองยังได้ฝากธรรมะถึงนักการเมืองว่า เมื่อเราอยากเป็น เราก็ต้องอยากทำงานด้วย เหมือนกับถ้าเราอยากไลฟ์ ก็ต้องอยากให้ธรรมะสอนคนด้วย ฉะนั้น ถ้าท่านมาแล้วดูแลประชาชน ก็สมกับที่ท่านอยากเป็น อย่างที่เขาบอกว่า “ธรรมชาติของตา อยู่ต่ำกว่าสมอง จงอย่าตัดสินแค่การมอง โดยลืมไตร่ตรองด้วยการใช้สมองที่สูงส่ง” ทุกครั้งที่เราดูอะไร เห็นอะไรต่างๆ ก็ตัดสินใจเลย เหมือนกับที่มีคนมาเตือนแต่แรก แต่ใจเขาบอกดูให้จบก่อน พอจบแล้วก็กลายเป็นให้กำลังใจและชม

“ถ้าเป็นภาษาดั้งเดิมตอนเด็ก คือดูหนังให้จบม้วนก่อนแล้วค่อยตัดสินเรา และค่อยตัดสินว่าคิดอย่างไร และให้เราแก้ไขอย่างไร ก็บอกกันได้ แต่ทุกวันนี้โลกของโซเซียลมันเรียล มันจริงมาก ชอบไม่ชอบ ดีไม่ดี แต่จะเป็นเกณฑ์เลยหรือไม่ อาตมาไม่เคยตั้งไว้ เพราะกลัวเขาว่า จะทำให้รู้สึกนอย หรือรู้สึกแย่ ดังนั้นลองชั่งน้ำหนักดู ประโยชน์ หรือโทษ อันไหนหนักกว่ากัน เพราะเราเพิ่มประโยชน์และสิ่งดีมีคุณค่าได้ เหมือนพวกท่านที่สนใจในคลิป เมื่อสักครู่ตอนลงรถ ยังถามพระมหาไพรวัลย์ ว่า เคยคิดว่าจะมีอย่างนี้หรือไม่ อยู่ก็มาเจอคนเยอะ” ทั้งนี้ พระมหาไพรวัลย์ได้ตอบกลับว่า “นึกว่ามางานเมืองคานส์” และกล่าวเสริมว่า ถือคติว่า ถูกต้องทั้งหมดไม่มี ไม่ถูกต้องทั้งหมดก็อาจจะไม่มี ก็ชั่งใจเอา อาตมาว่าจะทำให้ถูกใจทุกคนคงอยาก อย่างว่าคนดูหลักแสน คนดูหลักสิบในคอมเมนต์ยังตีกันเลย