นักรบตอลิบาน กรีฑาทัพ เข้ากรุงคาบูล สามารถยึดเมืองหลวง อัฟกานิสถานสำเร็จ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ประธานาธิบดี อัชราฟ กานี เผ่นหนีทันควัน อ้างต้องการหลีกเลี่ยงเหตุนองเลือด ส่งผลให้พวกนักรบอิสลามิสต์ ได้ควบคุมประเทศนี้โดยสมบูรณ์ หลังจากถูกสหรัฐฯ ยกพลบุกโค่นอำนาจเมื่อ 2 ทศวรรษก่อนท่ามกลางความมืดมิดที่เข้าปกคลุม สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น 1TV รายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้งในกรุงคาบูล นอกจากนี้ ยังได้ยินเสียงปืนดังขึ้นใกล้สนามบิน จุดที่ผู้แทนทูตต่างชาติ เจ้าหน้าที่และชาวอัฟกานิสถานบางส่วนกำลังหาทางหลบหนีออกนอกประเทศ กลุ่มช่วยเหลือ Emergency ระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 80 คนถูกพาตัวส่งสถานพยาบาลของพวกเขาในกรุงคาบูล ซึ่งแออัดไปด้วยผู้ได้รับบาดเจ็บ และบอกว่าเวลานี้รับเฉพาะผู้ได้รับบาดเจ็บที่มีอาการหนักเท่านั้นยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีกานี มุ่งหน้าไปที่ไหน หรือ จะมีการถ่ายโอนอำนาจกันอย่างไร หลังจากนักรบตอลิบานบุกจู่โจมสายฟ้าแลบทั่วอัฟกานิสถานในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขายกระดับรุกคืบรวดเร็วขึ้น หลังจากทหารสหรัฐฯ และต่างชาติถอนตัวตามกรอบความต้องการของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งประสงค์ยุติสงครามที่ยาวนานของสหรัฐฯ ที่ยกพลบุกประเทศแห่งนี้หลังโศกนาฏกรรมโจมตีอเมริกา 11 กันยายน 2001ผู้บัญชาการระดับสูง 2 คนของตอลิบานเปิดเผยว่า พวกนักรบบุกเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดีและเข้าควบคุมทำเนียบได้แล้ว ส่วนสถานีโทรทัศน์อัลจซีเราะห์เผยแพร่ภาพในสิ่งที่พวกเขารายงานว่า เป็นภาภาพบรรดาผู้บัญชาการของตอลิบานกำลังอยูในทำเนียบ พร้อมกับนักรบติดอาวุธหลายสิบคน นอกจากนี้แล้ว พวกตอลิบานยังระบุด้วยว่าพวกเขาสามารถควบคุมเขตต่างๆ แถบชานเมืองของกรุงคาบูลไว้ได้เกือบทั้งหมดกานี เขียนบนเฟซบุ๊กระบุว่า เขาเดินทางออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดและเหตุปะทะกับตอลิบาน ที่อาจเป็นอันตรายต่อประชาชนหลายล้านคนในกรุงคาบูล อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เผยว่าเขาเดินทางไปยังประเทศใด เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยรายหนึ่งระบุว่ากานีเดินทางไปยังทาจิกิสถาน แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศบอกว่าไม่ทราบถิ่นที่อยู่ของเขา ส่วนตอลิบานเผยว่า กำลังตรวจสอบถิ่นพำนักของประธานาธิบดีรายนี้
ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ท้องถิ่นบางส่วน ประณาม กานี ว่าขี้ขลาดตาขาว ทิ้งประชาชนไว้ในความยุ่งเหยิงอลหม่าน ผู้แทนทูตสหรัฐฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินจากสถานทูตไปยังสนามบิน หลังการแตกทัพของกองกำลังอัฟกานิสถาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และการฝึกฝนจากทหารสหรัฐฯ มานานหลายปี รวมถึงเงินอุดหนุนอีกหลายพันล้านดอลลาร์ซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกของตาลีบัน กล่าวว่า มีการสั่งให้สมาชิกกลุ่มติดอาวุธเข้าไปในหลายพื้นที่ของกรุงคาบูลในวันนี้ (15 ส.ค.) หลังจากที่มีการตรึงกำลังไว้บริเวณชานกรุงคาบูลก่อนหน้านี้ และ กองกำลังของตาลีบันจะป้องกันไม่ให้เกิดจลาจลและการลักขโมยขึ้น หลังจากที่กองกำลังความมั่นคงเดินทางออกจากหลายพื้นที่ของเมืองและด่านตรวจต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ในวันนี้ พวกเขาบอกว่า ได้ยึดเรือนจำและฐานทัพอากาศบากรัมไว้ได้แล้ว ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางเหนือราว 40 กิโลเมตร ฐานทัพแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ทางทหารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน และทหารสหรัฐฯ ได้อพยพออกไปในช่วงกลางดึกของวันที่ 2 ก.ค.2564
โฆษกตาลีบันย้ำว่า ประชาชนในกรุงคาบูลไม่จำเป็นต้องกังวลใจ และระบุว่า ชีวิตและและทรัพย์สินของพวกเขาจะปลอดภัย “เราเป็นผู้รับใช้ประชาชนและประเทศนี้” เขากล่าว และว่า ทางกลุ่มไม่ต้องการให้ชาวอัฟกันหนีออกไป แต่ต้องการให้อยู่และช่วยกันฟื้นฟูประเทศช่วงหลังความขัดแย้งทางด้าน สหรัฐฯ ได้ส่งทหาร 5,000 นาย เข้าไปช่วยขนเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ และชาวอัฟกันที่ช่วยเหลือภารกิจของสหรัฐฯ โดยมีการใช้เฮลิคอปเตอร์หลายลำขนส่งบุคลากรของสถานทูต และมีรายงานจากหลายแหล่งว่า มีควันลอยขึ้นใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯ เพราะมีการทำลายเอกสารสำคัญ เช่นเดียวกับทหารอังกฤษราว 600 นาย ถูกส่งเข้าไปช่วยภารกิจถอนกำลังออกจากประเทศรัสเซียกำลังวางแผนที่จะเข้าแทรกแซงการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในการหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน รัสเซียระบุว่า จะไม่ปิดสถานทูตของตัวเองที่นั่น เพราะตาลีบันให้รับรองความปลอดภัยแล้ว ส่วนประเทศอื่น ๆ ก็กำลังอพยพประชาชนของตัวเอง ลดเจ้าหน้าที่ที่ประจำการอยู่ในประเทศหรือบางแห่งก็ถึงขั้นปิดสถานทูตของตัวเองไปเลย