“อนุทิน-มนัญญา” จับมือ ปลูกฟ้าทะลายโจร สู้ภัยโควิด หนุนเกษตกรสร้างรายได้

“อนุทิน-มนัญญา “ร่วมพิธีเปิดงาน Kick Off โครงการปลูก”ฟ้าทะลายโจร” สู้ภัยโควิด-19 ของสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ เมืองอุทัยธานี ชี้ เป็นความหวังใช้รักษา ผู้ป่วยติดเชื้อ และ ส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้ในช่วงวิกฤต

วันที่ 7 ส.ค. 2564 น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลัง ร่วมพิธีเปิดงาน Kick Off โครงการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร สู้ภัยโควิด-19 ของสมาชิกสหกรณ์ในจังหวัดอุทัยธานี โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน ณ แปลงปลูกฟ้าทะลายโจร ของสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ว่า การแพร่ระบาดของ โควิด–19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อ จำนวนมากขึ้น ดังนั้นความหวังที่จะลดการติดเชื้อ คือวัคซีน และ ยารักษาโรค ที่จะสามารถหยุดยั้ง ลดความรุนแรงให้แก่ผู้ป่วยจากการศึกษาวิจัยสมุนไพรไทย เพื่อใช้เป็นยาทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด–19 พบว่า สมุนไพรฟ้าทะลายโจร มีผลยับยั้งเชื้อไวรัส และมีฤทธิ์ต้านการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส หากนำมาใช้ร่วมรักษากับการแพทย์แผนปัจจุบันในผู้ป่วย ที่มีระดับความรุนแรงน้อย ไม่มีภาวะปอดอักเสบ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้น และแทบไม่พบผลข้างเคียงอีกด้วย ดังนั้น การจัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร จึงเป็นนโยบายที่ดี ในการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจร ให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และ จะเป็นโอกาสให้กับสหกรณ์ในการต่อยอด สร้างรายได้ให้กับสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร“สำหรับการจัดทำโครงการฯ ในครั้งนี้ มีเป้าหมายคัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมจำนวน 500 ไร่ เป้าหมายในปี 2564 จำนวน 100 ไร่ และปี 2565 จำนวน 400 ไร่ ในพื้นที่ครอบคลุมทุกภูมิภาค โดยจะมีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ปลูกฟ้าทะลายโจร เพื่อแปรรูปป้อนเข้าสู่ตลาด โดยได้กำหนดวิธีการดำเนินงานตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และ ปลายน้ำ โดยจะขยายผลโครงการดังกล่าวต่อไป คาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นการสร้างอาชีพหลัก หรือ เป็นพืชเสริมเพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับสมาชิกและเกษตรกร รวมทั้งสนับสนุนผลผลิตฟ้าทะลายโจรให้เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เป็นการรักษาเสถียรภาพด้านปริมาณ และราคาให้เกิดความสมดุลและให้มีการใช้พืชสมุนไพรไทย เป็นทางเลือกในการบำบัด ควบคุม และรักษาโรคเพิ่มขึ้น” น.ส.มนัญญา กล่าว