งัดยาแรง!! สธ.ชง ศบค. ใช้มาตรการเด็ดขาด ปิดสถานบริการ ห้ามออกนอกที่พัก

ด่วน! สธ. ชง ศบค. จำกัดการเดินทาง กทม. -ปิดสถานที่ไม่จำเป็น ให้ออกนอกเคหสถาน เฉพาะการดำรงชีวิต “ตลาด-ซูเปอร์-พบแพทย์-ฉีดวัคซีน” เชื่อหากทุกฝ่ายยึดปฏิบัติเคร่งครัด ตัวเลขการติดเชื้อจะลดลงภายใน2สัปดาห์

วันที่ 8 ก.ค.2564 เวลา 11.00 น. ที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการสาธารณสุข ที่ได้เสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ในการควบคุมการระบาดโควิด-19 ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอมาตรการต่อที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ประเด็นสำคัญ คือ การยกระดับมาตรการทางสังคม ที่สำคัญคือ

1.เรื่องการจำกัดการเดินทาง อยากให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ไม่ออกจากเคหสถานโดยไม่จำเป็น แต่จะให้ออกไปซื้ออาหาร พบแพทย์ ออกไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และจะมีการเสนอห้ามเดินทางข้ามจังหวัด

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า 2.การปิดสถานที่เสี่ยงทั้งหมด ปิดสถานที่ที่ไม่จำเป็นและสถานที่ที่จะมีคนไปรวมตัวทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะขอให้ปิด โดยจะให้เปิดได้ เช่น ตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต และสถานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ซึ่งกรมควบคุมโรคจะมีรายละเอียดออกมาต่อไป 3.เสนอให้ใช้มาตรการดังกล่าวใน พื้นที่เสี่ยงและพื้นที่กันชน เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน ซึ่ง สธ. ได้เสนอหลักการของพื้นที่ดังกล่าว และทาง ศบค.จะพิจารณาพื้นที่ดังกล่าว

“กระทรวงสาธารณสุข อยากเร่งเสนอมาตรการสำคัญ เพื่อลดการระบาดของกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ให้ระบบสาธารณสุขดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

ต่อข้อถามว่า การยกระดับมาตรการที่สูงเช่นนี้ เรียกว่าล็อกดาวน์พื้นที่หรือไม่ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เราไม่ต้องการสร้างความสับสน เพราะเมื่อก่อนจะหมายถึงการป้องกันคนจากต่างประเทศด้วย แต่เนื้อหาคือ การจำกัดการเดินทางและปิดพื้นที่เสี่ยง และ เมื่อถามต่อว่า การจำกัดการเคลื่อนย้ายพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่กันชน ประมาณกี่จังหวัด นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เราเสนอหลักการของพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่กันชนเข้าไปที่ ศบค. ให้พิจารณาจังหวัดดังกล่าว คาดว่าจะมีการแถลงรายละเอียดให้ทราบต่อไป

“ศบค.เป็นผู้พิจารณาข้อกำหนด เราให้หลักการว่า หากเราจำกัดการเดินทางและปิดสถานที่เสี่ยง เช่น พื้นที่สีแดง ทำให้คนเดินทางไปพื้นที่อื่น เราจึงใช้ระบบกันชนในการควบคุมโรคที่ผ่านมา เป็นสีเขียว สีเหลือง และสีแดง ซึ่งเราเห็นว่าได้ผลดี เพราะการเดินทางข้ามจังหวัดทำได้ยากขึ้น ดังนั้น มาตรการกันชนก็จะช่วยลดหลั่นการเดินทางมากขึ้น และทางศบค.จะต้องพิจารณาต่อไป” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

เมื่อถามว่า การจำกัดพื้นที่ตามมาตรการจะใช้ตลอดทั้งวันหรือไม่ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เสนอมาตรการครั้งนี้ จะมีความเข้มข้นเท่ากับ หรือ ไม่น้อยกว่ามาตรการในเดือน เม.ย.2563 และ เมื่อถามถึงการประเมินภาพตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ภายหลังการยกระดับใช้มาตรการควบคุมโรค นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ภาพรวมของมาตรการ จะใช้เวลาประเมิน 14 วัน ตามระยะฟักตัวของโรค มาตรการนี้จะต้องอย่างน้อย เท่ากับมาตรการใน เดือนเม.ย.63 และจะมีมาตรการฉีดวัคซีนเข้าไปเสริม เชื่อว่าหากได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลงใน 2 สัปดาห์