มติครม.!! ไฟเขียว ช่วยเหลือ ผู้ประกอบการ และ กลุ่มแรงงาน ในแคมป์ที่ถูกสั่งปิด ที่ได้รับผลกระทบจาก ประกาศ ฉบับที่ 25 โดยจะจ่ายให้ทุก5วัน รวมทั้งเพิ่มเงินเยียวยา ม.33 อีก 2พันบาท
วันที่ 29 มิ.ย.2564 ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบหลักการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากประกาศฉบับที่ 25 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด10 จังหวัด โดยในส่วนกทม.และปริมณฑล 6 จังหวัด จะช่วยแรงงานและผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ก่อสร้าง ที่พักและบริการด้านอาหาร ศิลปความบันเทิง นันทนาการ และอื่น ๆ เช่น ซ่อมคอมพิวเตอร์ รองเท้า เสื้อผ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่อใช้เครื่องครัว ธุรกิจสปา ลดน้ำหนัก ร้านทำผม ทำเล็บ ซักรีด เป็นต้น เป็นเวลา 1 เดือน โดยกลุ่มแรงงานที่เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 ที่มีสัญชาติไทย จะได้รับเงินเพิ่ม 2,000 บาท นอกเหนือจากเงินตามระบบประกันสังคมปกติ กรณีประโยชน์ทดแทนการว่างงาน ร้อยละ50 และสูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท ตลอดเวลาที่สั่งปิด
สำหรับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติมสูงสุด ดูตามจำนวนรายของลูกจ้างที่มีจำนวน 3,000 บาทต่อหัว สูงสุดไม่เกิน 200 ราย ส่วนกรณีผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้างให้ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นถุงเงิน ผ่านโครงการคนละครึ่ง ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนก.ค.64 เพื่อได้รับความช่วยเหลือเป็นเงิน 3,000 บาท
สำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในหมวดของร้านอาหาร หรือเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ซึ่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคมก็จะได้รับการช่วยเหลือ 3,000 บาท เช่นเดียวกันโครงการคนละครึ่งจะมีหมวดที่ชัดเจนให้ระบุว่าทำกิจการอะไร
นายอนุชา เป็นผู้ตอบคำถามแทนนายกรัฐมนตรี ในส่วนของมาตรการปิดแคมป์คนงาน ทางกระทรวงแรงงานมีมาตรการการเยียวยา โดยจะเข้าไปควบคุมดูแลร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ทั้งเรื่องอาหารการกิน ความเป็นอยู่ โดยจะตรวจทุก 5 วันและจ่ายเงินสดให้กับแรงงาน ซึ่งจะจ่ายเงินสดให้กับแคมป์คนงานทุก 5 วัน โดยจะเข้าไปเช็กรายชื่อทุกวัน พร้อมกับผู้ประกอบการ