ศุลกากรภาค 4 อ.หาดใหญ่ อายัดสินค้าแบรนด์เนมลักลอบส่งทางไปรษณีย์ กว่า 2,011 ชิ้น มูลค่า 10 ล้านกว่าบาท

“พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ขายของแบรนด์เนมทั้งแท้และกระจก ช่วงนี้ใครส่งของแล้วลูกค้าไม่ได้รับ เป็นไปได้ว่าสินค้าของท่าน ถูกอายัดไว้ตรวจสอบ และหลังจากนี้จะมีหนังสือให้ท่านหรือผู้รับนำเอกสารมาชี้แจงที่สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 !!! … ตรวจพบการลักลอบส่งสินค้าแบรนด์เนม 2,011 ชิ้น มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ลักลอบส่งทางไปรษณีย์และขนส่งเอกชน ตอนนี้อายัดยึดของกลางทั้งหมดไว้ รอเจ้าของมาแสดงตัว ก่อนตรวจสอบเอกสารการซื้อสินค้าลิขสิทธิ์ทั้งหมดนี้”

วานนี้ 20 มี.ค. 60 ที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร (ทักษิณ10) สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 พร้อมด้วยนายเนรมิต จินตนะ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และนายกมล สาระยิ่ง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ถูกลักลอบขนส่งผ่าน ทางไปรษณีย์ และบริษัทขนส่งเอกชนในพื้นที่รับผิดชอบ

โดยจากการตรวจค้นสินค้าภายในที่ทำการศูนย์ไปรษณีย์หาดใหญ่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และบริษัทขนส่งเอกชนใน จ.ภูเก็ต ในช่วงระหว่างวันที่ 10-17 มี.ค. ที่ผ่านมา สามารถอายัดของกลางที่เป็นสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งล้วนเป็นของแบรนด์เนมชื่อดัง ทั้งกระเป๋า เช่น Louis Vuitton, Prada, Bao Bao, Chanel ฯลฯ รองเท้า เช่น Nike, Adidas รวมทั้งเสื้อผ้าสวมใส่ ชุดกีฬา เครื่องสำอาง และลำโพง รวมทั้งสิ้น 2,011 ชิ้น มูลค่าประมาณ 10,165,500 บาท

นายเนรมิต จินตนะ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 เผยว่า สินค้าทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้อายัดเอาไว้เป็นของกลาง เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด และให้เวลา 30 วัน หลังจากนี้ เพื่อให้เจ้าของหรือผู้รับ-ผู้ส่งมาแสดงตัว และตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ รวมถึงจะประสานไปยังตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์แต่ละยี่ห้อให้เข้ามาตรวจสอบร่วมกันว่าเป็นสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดหรือไม่ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดมากขึ้นตามแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตามนโยบายของ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ทางสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representatives : USTR) จะทำการประเมิน และประกาศการจัดอันดับสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศไทย ในช่วงเดือน เม.ย. อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเป็นธรรมทางด้านการค้าและการจัดเก็บภาษีอีกด้วย