เลขาฯ รมว.สาธารณสุข จัดหนัก “มาดามเดียร์” จ้องโจมตีการทำงานแก้โควิด จงใจดิสเคดิต”อนุทิน” เท่ากับ ทำลายขวัญ กำลังใจ แพทย์-พยาบาล พร้อมแจกแจงการใช้งบฯอย่างละเอียด ฉะยับ จะพูดจา วิจารณ์ใครต้องคิดให้รอบคอบก่อน
หลังจาก “มาดามเดียร์” หรือ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายการประชุมสภาฯ พิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดต่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท โดยได้วิจารณ์การใช้งบของกระทรวงสาธารณสุขที่ล่าช้า
ล่าสุด วันนี้ (9 ก.พ.) นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า น.ส.วทันยา น่าจะเข้าใจหลักการบริหารผิดพลาด เพราะประสิทธิภาพเรื่องการทำงานนั้น ไม่เกี่ยวกับการใช้งบฯฯมาก หรือใช้งบน้อย แต่หลักการที่ถูกต้อง คือต้องใช้งบอย่างคุ้มค่า ซึ่ง กระทรวงสาธารณสุข ยึดมาตรฐานนี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมา มีการใช้งบอย่างระมัดระวัง ผ่านการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญ และคณะบุคคลากรทางการแพทย์ หลายต่อหลายท่าน มีการเบิกงบอย่างโปร่งใส การดีสเครดิต การใช้จ่ายงบของกระทรวง ย่อมกระทบหัวใจทีมแพทย์ ทีมสาธารณสุข ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้
ที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ของประเทศไทย เราพยายามคิดล่วงหน้าไปหลายก้าว จำได้หรือไม่ ประเทศไทย เป็นประเทศที่ 2 ของโรค ที่ตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวด เป็นประเทศที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เราควบคุมโรคได้ดีมาก กระทรวงสาธารณสุข พยายามทำทุกอย่างตามแผน กระทั่งมาการระบาดรอบหลัง ซึ่งเราต้องปรับแผนขนานใหญ่ มาเป็นเรื่องของการเอาจริงเอาจัง เรื่องการจัดหาวัคซีน ซึ่งไทยมีการนำวัคซีนเข้าวัคซีน ก่อนแผนเดิมที่กำหนด จนถึงวันนี้ ฉีดไปแล้วกว่า 4 ล้านโดส ถือว่ากระทรวงสาธารณสุข สามารถปรับแผนให้ทันสถานการณ์
อย่าไปมองว่า การใช้งบฯเยอะแล้วจะได้ประโยชน์สูงสุดเสมอไป ณ จุดนี้ มันต้องมองเรื่องการใช้งบอย่างคุ้มค่าด้วย และเราใช้งบในลักษณะนี้มาโดยตลอด ต้องมั่นใจว่า เม็ดเงินที่จ่ายลงไป ประชาชนต้องได้ประโยชน์ ไม่ใช่ใช้จ่ายแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ปัญหาตอนนี้ คือ เรื่องของวัคซีน ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ปรับแผนการนำเข้าอยู่ตลอด ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน การซื้อวัคซีนไม่ง่าย ไม่ใช่ว่าเอาเงินไปให้แล้วจะได้เลย แต่ต้องดูด้วยว่า เขาจัดส่งได้เมื่อไร คนที่พูด จะพูดอะไรก็ได้ จะวิจารณ์อะไรก็ได้ แต่คนทำงาน ต้องคิดให้ลึก ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน
“มาในเชิงรายละเอียดการใช้จ่ายงบนั้น น.ส.วทันยา ขาดตกในเรื่องของไทม์ไลน์ ซื่ผมจะขอชี้แจงให้กระจ่าง ดังนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้รับงบเงินกู้ 45,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งได้รับ 25,175 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งคือ 19,587 ล้านบาท ในส่วนแรก ได้บริหารงบอย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งเป็นเดือนมีนาคม ได้รับการจัดสรรเงินมา 4,800 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการปรับปรุงสถานพยาบาล และบางส่วนเป็นการซื้อชุด PPE และซื้ออุปกรณ์ป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยโควิด ต่อมา เดือนเมษายนได้รับการจัดสรรมาเป็นค่าวัคซีน และค่าทดลองวิจัย 1,800 ล้านบาท เป็นค่าวัคซีน 1,200 ล้านบาท วันที่ 5 พฤษภาคม ที่เงินมาถึงมือ จำนวน 5,900 กว่าล้านบาท จัดเป็นค่าปรับปรุงห้องทันตกรรมปลอดเชื้อ และ ซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จัดซื้อจากต่างประเทศ นอกจากนั้น ยังมีการจัดสรรงบ เพื่อจัดซื้อคือเครื่องฉายรังสีสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง โดยดำเนินการจัดหาทั้งหมด 7 เครื่องและกระจายไปทั่วประเทศ ขอย้ำว่า ทันทีที่งบมา เราใช้จ่ายทันที เพราะทราบดีว่า ประชาชนมีความเดือดร้อน ต้องเร่งจัดการ ฝ่ายที่วิจารณ์กรุณาเข้าใจเหตุและผลเรื่องการเบิกจ่ายด้วย เพราะไม่ใช่ว่าคิดแล้ว งบจะลงมาเลย แต่มันต้องอาศัยเวลา กระบวนการอนุมัติงบประมาณ เมื่อคณะรัฐมนตรี อนุมัติแล้วเป็นขั้นตอนของสำนักงบประมาณและสภาพัฒน์ กระทรวงสาธารณสุขทำคำขอไปตามขั้นตอน” นายวัชรพงศ์ กล่าว