ประธานาธิบดี อิรัก เรียกร้องให้ รัฐสภา ผ่านกฎหมาย “ทวงเงินทุนทุจริต” เพื่อตามทวงเงินรายได้มหาศาลกว่า 1.5แสนล้านดอลลาร์ ที่ถูกปล้นไปจากเงินรายได้การจำหน่ายน้ำมัน นับตั้งแต่ สหรัฐอเมริกา โค่น ซัดดัม ฮุสเซน เมื่อปี 2003
ประธานาธิบดี บาร์ฮัม ซาเลห์ แห่งอิรัก แถลงวันที่ 23 พ.ค.2564 ว่ามีเงินรายได้จากน้ำมันถูกปล้นไปจากอิรัก ประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ สหรัฐฯ นำกองกำลังพันธมิตรบุกโค่นรัฐบาล ซัดดัม ฮุสเซน เมื่อปี 2003 “รายได้เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่เราได้จากการขายน้ำมันตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา มีอยู่ประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์ที่ถูกปล้นไปจากอิรัก” ซาเลห์ แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์
โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ ซาเลห์ ได้เสนอร่างกฎหมายว่าด้วยการทวงคืนเงินทุนทุจริต (Corrupt Funds Recovery Act) ต่อรัฐสภา “ร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วยเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่ประชาชาติอิรัก ทวงคืนเงินรายได้ที่ถูกปล้นไปจากการทำสัญญาทุจริต และนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” ซาเลห์ กล่าว
ผู้นำอิรักเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาร่วมกันอภิปรายและผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งเสนอให้มีการติดตามทวงคืนเงินที่ถูกขโมยโดยอาศัยความร่วมมือกับรัฐบาลต่างชาติและองค์กรระหว่างประเทศ เขาเชื่อว่าวงเงินที่ถูกขโมยไปมากพอที่จะฟื้นสถานะทางการคลังของอิรักให้ดีขึ้นได้ และร่างกฎหมายใหม่ “จะช่วยแก้ไขปัญหาการทุจริตฉ้อโกงที่ลิดรอนโอกาสประชาชนในการเข้าถึงความร่ำรวยของประเทศมานานหลายปี”
“วันนี้ผมขอย้ำข้อเรียกร้องของอิรักที่เราได้กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติไปแล้วว่า ขอให้มีการตั้งกลุ่มพันธมิตรนานาชาติเพื่อต่อต้านการคอรัปชัน ในลักษณะเดียวกับพันธมิตรต่อต้าน ISIS (กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส)”….“ลัทธิก่อการร้ายจะถูกกำจัดหมดไปได้ก็ต่อเมื่อเราปิดกั้นแหล่งเงินทุนของพวกเขาที่มาจากการทุจริตคอรัปชัน” ซาเลห์ เอ่ยเสริม
อิรักยังคงล้มเหลวในการฟื้นคืนเสถียรภาพหลังตกอยู่ท่ามกลางสงครามและมาตรการคว่ำบาตรมาหลายสิบปี โดยตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมามีชาวอิรักหลายร้อยคนที่ต้องเสียชีวิตจากการเดินขบวนต่อต้านพฤติกรรมทุจริตของรัฐบาล ตลอดจนปัญหาการว่างงาน และบริการขั้นพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้าและน้ำสะอาดที่ยังไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โจ ไบเดน มีแผนที่จะถอนทหารอเมริกันทั้งหมดออกจากอิรัก หลังจากที่กองกำลังความมั่นคงท้องถิ่นมีศักยภาพสูงขึ้น อีกทั้งภัยคุกคามจากกลุ่มไอเอสก็ลดลงมาก ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีทหารประจำการอยู่ในอิรักราว 2,500 นาย โดยเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังเฉพาะกิจร่วมผสม–ปฏิบัติการแก้ปัญหาจากต้นกำเนิด (Operation Inherent Resolve) ที่มุ่งขจัดกลุ่มนักรบที่ยังหลงเหลืออยู่ของ “รัฐคอลีฟะห์” ที่ไอเอสเคยสถาปนาขึ้นบนพื้นที่กว้างขวางของอิรักและซีเรียเมื่อปี 2014