หนีภัยโควิด!! แรงงานลาวทะลักกลับบ้านอื้อ คนไทยตกค้าง500 ติดเชื้อแล้ว13ราย

แรงงานชาวลาว ทะลักกลับจากเขตเศรษฐกิจพิเศษ สามเหลี่ยมทองคำกลับ สปป.ลาว หลังโควิด-19 ระบาดหนัก ขณะคนไทยตกค้างกว่า 500ราย ติดโควิดแล้ว13 ผวจ.เชียงราย ประกาศพร้อมเปิดให้เดินทางเข้าไทย

วันที่ 22 พ.ค.2564 เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง พื้นที่ชายแดน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ยังคงเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนทางเรือในแม่น้ำโขงและตรวจตราทางบก เพื่อป้องกันแรงงานชาวต่างชาติ ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง

เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในโครงการคิงส์โรมัน ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน ยังคงมีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่อง จนแรงงานชาวลาว ที่เคยทำงานในเขตเศรษฐกิจดังกล่าวพากันอพยพออกจากพื้นที่เพื่อกลับภูมิลำเนาภูมิลำเนานับพันคน

นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผวจ.เชียงราย เปิดเผยว่าที่ผ่านมาทาง จ.เชียงราย ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังแขวงบ่อแก้วและโครงการคิงส์โรมัน ให้ช่วยตรวจสอบคนไทยที่เข้าไปทำงานในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งก็พบว่ามีอยู่ประมาณ 500 คน และตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นมา ก็พบคนไทยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน 13 คน แต่ได้รักษาจนหายดีแล้ว 6 คน เหลือผู้ป่วยพักรักษาตัวอยู่เพียง 7 คน

ซึ่งทาง จ.เชียงราย ก็ได้แจ้งไปว่าหากแรงงานไทยคนใดต้องการจะเดินทางกลับประเทศก็สามารถทำได้ โดยขอให้ทาง สปป.ลาว ได้ช่วยอำนวยความสะดวก และทางการจะไปรับผ่านสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อ.เชียงของ จ.เชียงราย ติดกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว จากนั้นก็จะให้ผู้เดินทางกลับได้เข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคและกักตัว 14 วันต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคนงานไทยขอเดินทางกลับประเทศแม้แต่รายเดียว

ส่วนในโครงการคิงส์รมันส์ทราบว่าได้ให้การดูแลพนักงานภายในเป็นอย่างดีโดยมีการจัดหาวัคซีนฉีดให้กับพนักงานทุกคนรวมถึงคนไทยด้วย อย่างไรก็ตามทางจังหวัดก็บูรณการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงทุกส่วนจัดกำลังกว่า 1,000 นาย คอยดูแลตลอดพื้นที่ตลอดแนวชายแดนเพื่อป้องการลักลอบเมือง รวมทั้งให้ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้สอดส่องดูชุมชนของตนเพื่อป้องกันคนต่างถิ่นที่อาจหลบหนีเข้าเมืองแล้วไปพักอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา เพจหนังสือพิมพ์บ่อแก้ว https://www.facebook.com/Bokeonewspaper/posts/1205076993279573 ได้เผยแพร่ภาพแรงงานชาวลาวที่อพยพออกจากเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมคำกลับบ้าน โดยระบุว่าจำนวนผู้ป่วยที่พบในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำได้พุ่งสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง จนทำให้แขวงบ่อแก้วกลายเป็นพื้นที่ที่มีผู้ป่วยยืนยันสะสมสูงเป็นอันดับสองของ สปป.ลาว รองจากนครหลวงเวียงจันทน์

โดยข้อมูลซึ่งถูกเปิดเผยในที่ประชุมออนไลน์ระหว่าง พันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีของลาว กับเจ้าแขวงทั่วประเทศในตอนเช้าวันที่ 17 พฤษภาคม พบว่าในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 345 คน แบ่งเป็นผู้หญิง 223 คน ผู้ชาย 122 คน แยกตามสัญชาติเป็นคนลาว 199 คน จีน 95 คน เมียนมา 41 คน ไทย 9 คน (เพิ่มเป็น 13)และเวียดนาม 1 คน ทั้งหมดได้ถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลของเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ และมีผู้ได้รับการรักษาจนหายแล้ว 84 คน เป็นคนลาว 45 คน จีน 33 คน กับเมียนมาอีก 2 คน

ณ วันที่ 17 พฤษภาคม ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ มีผู้ที่ผ่านการตรวจคัดกรองเชื้อแล้วทั้งสิ้น 43,471 คน และมีผู้ที่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 1 แล้ว 36,099 คน

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ 25 คน จากมณฑลยูนนาน ซึ่งรัฐบาลจีนได้ส่งมาช่วยลาวในการรับมือกับโควิด-19 ได้เดินทางมายังเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ และได้เข้าไปให้คำปรึกษาแก่ฝ่ายสาธารณสุขของเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ รวมถึงได้เข้าไปตรวจดูสถานที่กักกันภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษฯด้วย

สำหรับคนงานชาวลาวที่เดินทางกลับบ้านพร้อมกันในสุดสัปดาห์นี้ เพราะแต่ละคนเพิ่งได้รับเงินเดือนจากนายจ้างที่จ่ายให้ในช่วงวันที่ 20-21 พฤษภาคม เมื่อทุกคนได้รับค่าจ้างครบแล้ว จึงตัดสินใจว่าจะหนีการระบาดของโควิด-19 กลับไปยังบ้านของตน