กุรอ่าน…บอกถึงการมาของ การอวสานแห่งเทคโนโลยีก่อนวันสิ้นโลก

องค์การนาซาของสหรัฐ​ จำลองเหตุการณ์ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก​ โดยพบว่าแม้จะใช้ระเบิดนิวเคลียร์เข้าสกัด​ ก็ไม่สามารถเอาอยู่ได้​  บทความโดย ดร.วิสุทธิ์ บินลาเต๊ะ 

พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน​ซึ่งเป็นพจนารถแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า​ เป็นสัจธรรมที่ไม่ว่าจะพูดถึงอดีต​ ปัจจุบันหรืออนาคต​ ล้วนเป็นความจริงแท้​ มิใช่แค่ฉากจำลอง

อัลกุรอาน​ ยืนยันการมาถึงของดาวเคราะห์ดวงหนึ่งแน่นอน​ ดาวดวงนั้นเรียกว่า​ อัตตอริก​ الطارق ซึ่งมีลักษณะติดไฟโชนแสงและพุ่งทะลุทะลวงชั้นบรรยากาศของโลกเข้ามา​ النجم الثاقب

ในซูรอฮ​ อัดดุคคอน​ (แปลว่าควัน)​ อายะฮที่​ 10 ทรงตรัสว่า

فارتقب يوم تأتي السماء بدخان مبين
จงรอวันที่ฟากฟ้าจะพาเอาควันอันชัดเจนลงมา

เข้าใจได้ว่าคือควันที่เกิดจากการพุ่งเข้าชนโลกของดาว​ “อัตตอริก​” ดวงนั้น​ ซึ่งจะเป็นควันหนาทึบมองเห็นได้ชัดเจน​ เป็นควันที่ปกคลุมโลกทั้งโลกถึง​ 40​ วัน​ (วจนะบันทึกโดยมุสลิม​ อรรถาธิบายโดยอิหม่ามนาวาวีย์​ 27/18) และจะค่อย​ ๆ​ จางไปในระยะเวลา​ 1 ปี

ดาวเคราะห์และกลุ่มควัน​ จึงเป็นช่วงเวลาแห่งหายนะครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ​ เป็นห้วงแห่งการแปรเปลี่ยนโลกอีกครั้ง​ เพราะเทคโนโลยีต่าง​ ๆ​ จะพังพินาศสิ้น​ จนมนุษย์ต้องย้อนกลัับไปใช้ชีวิตแบบคนยุคกลางอีกครั้ง​ เกาะแก่งหรือทวีปบางทวีปอาจจมหายไปใต้คลื่นสึนามิยักษ์ที่เกิดจากดาวเคราะห์พุ่งลงสู่มหาสมุทร

เมื่อไหร่หนอที่ตอริกจะมา​?

อัลกุรอานซูรอฮ​ ยูนุส : 24​ ระบุว่า
حتى إذا أخذت الأرض زخرفها وازينت وظن أهلها أنهم قادرون عليها أتاها أمرنا ليلا أو نهارا فجعلناها حصيدا كأن لم تغن بالأمس….
ครั้นเมื่อแผ่นดินสะพรั่งงามด้วยเครื่องประดับตบแต่ง​(ซึ่งมนุษย์ประดิดประดอยขึ้น)​ และชาวดินก็คิดกันว่า”พวกเขาสามารถควบคุมแผ่นดินทั้งหมดได้แล้ว​ (ด้วยเทคโลยีของตน)​ วันนั้น​ บัญชาแห่งข้าก็จะมาถึงทั้งยามกลางคืนและกลางวัน​ ข้าจะทำให้โลกกลายเป็นซากเดน​ เสมือนหนึ่งเมื่อวันวานมันไม่เคยสดสะพรั่งมาก่อน…

วันนี้​ มนุษย์เหิมเกริมยิ่งนักแล้ว​ ดังนั้น​ บัญชาแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าก็คงอีกไม่ไกล​ !!!