พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ เสนอ 5 มาตรการสาธารณสุข 5 มาตรการเศรษฐกิจ ต้องเร่งรัด ฉีดวัคซีน และ นำมาตรการ เยียวยาประชาชน เป็นเงินสดเดือนละ 5,000บ. ติดต่อกัน 3 เดือน
วันที่ 27 เมษายน 2564 พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ถึงสถานการณ์โควิดระโดยมีเนื้อหาระบุว่า สถานการณ์การระบาดโควิดระลอกที่ 3 ได้สร้างความเสียหายต่อประเทศทั้งทางด้านสาธารณสุข สุขภาพของพี่น้องประชาชน และสภาวะเศรษฐกิจ ลงลึกถึงปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน โดยในระยะที่ผ่านมาการรับมือโควิดของรัฐบาลผิดพลาด ล้มเหลว และไร้ประสิทธิภาพ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ด้านสาธารณสุข 1.1. รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหาผู้ป่วยตกค้างที่รอเข้าสู่ระบบการรักษาหลายร้อยราย และต้องไม่มีเหตุการณ์ผู้ป่วยรอเข้าสู่ระบบจนเสียชีวิตเกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด รัฐบาลยังต้องให้ความสำคัญกับปัญหาคอขวดด้าน ICU และอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับรองรับผู้ป่วยหนัก เพื่อป้องกันการเสียชีวิตของประชาชน
1.2. รัฐบาลต้องบริการจัดการระบบโลจิสติกส์ด้านการตรวจเชื้อ การเข้ารักษาในโรงพยาบาล ปัญหาเตียงเต็ม ให้เป็นระบบ โดยใช้ฐานข้อมูลเดียวในการบริหารจัดการ และรายงานสถานะให้พี่น้องประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง
1.3. รัฐบาลต้องเร่งจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพ โดยตั้งเป้าหมาย 100 ล้านโดส ภายในปีนี้ โดยเร่งฉีดให้ได้วันละ 400,000 โดสต่อวัน เพื่อให้ครอบคลุม 50-60% ของประชาชนภายในสิ้นปีนี้
1.4. รัฐบาลต้องรับฟังและแก้ไขข้อผิดพลาดในการทำงาน ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง และร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อเพิ่มปริมาณการฉีดวัคซีนให้คนไทย เพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดในภาวะวิกฤต
1.5. การล็อกดาวน์ (หากจำเป็นต้องดำเนินการ) ต้องทำโดยยึดหลักเฉพาะเจาะจง ไม่สร้างภาระกับประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศเกินความจำเป็น
2. ด้านเศรษฐกิจ 2.1. รัฐบาลต้องเร่งเยียวยาประชาชนและภาคเอกชน โดยที่เฉพาะที่ได้ผลกระทบจากการระบาดในระลอกที่ 3 โดยเยียวยาเป็นเงินสดจำนวน 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยควรใช้ระบบเฉพาะเจาะจง หลีกเลี่ยงการเยียวยาแบบเหวี่ยงแห
2.2. ต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายจริงของงบฟื้นฟูที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายอยู่ราว 300,000 ล้าน ให้มีการใช้จริงและเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร่งด่วน และโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นฯ วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
2.3. รัฐบาลต้องเร่งช่วยเหลือ SMEs ซึ่งเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเยียวยาผู้ประกอบการที่ถูกสั่งปิดโดยภาครัฐ และที่ได้รับผลกระทบ เร่งแก้ไขกลไกในมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู และมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ ให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐและภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องสินเชื่อและการตีโอนทรัพย์ รวมถึงมาตรการเพื่อรักษาระดับการจ้างงาน
2.4. มาตรการสิทธิพิเศษด้านภาษี เงินคืน ส่วนลด เพื่อดึงกำลังซื้อจาก “คนมีรายได้สูง” โดยระบุเงื่อนไขมุ่งเป้าไปที่การซื้อ “สินค้าคงทน” เครื่องจักร อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าชิ้นใหญ่ๆ เพื่อเหนี่ยวนำให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนรอบใหม่ สร้างการจ้างงาน สร้างเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจ
2.5. สนับสนุนการส่งออกในจังหวะที่ประเทศคู่ค้าเริ่มฟื้น โดยสนับสนุนเรื่องต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักร มาตรการด้านภาษีศุลกากร เพื่อทำให้ผู้ประกอบไทยส่งออกในราคาที่แข่งขันได้ เพื่อดึงรายได้เข้าประเทศ รวมถึงการดูแลค่าเงินบาท
สรุป วิกฤตโควิด-19 นั้นหนักหนาทั้งด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยพร้อมทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ และพร้อมผนึกกำลังภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อฝ่าฟันและพ้นผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน