“บิ๊กตู่” กำชับ!! ตั้งรพ.สนาม 2.5 หมื่นเตียงทั่วปท. สอดคล้อง จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด

นายกรัฐมนตรี กำชับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดตั้ง รพ.สนาม ให้ได้อยย่างน้อย 2.5 เตียง เพื่อให้สอดคล้องกับตัวเลขของผู้ป่วยจากการติดเชื้อ โควิด-19ทั่วประเทศ

วันที่ 17 เม.ย.64 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความพร้อมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้เร่งดำเนินการเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลสนาม เบื้องต้นได้ขยายโรงพยาบาลสนามและHospitel ทั้งในส่วนกลาง ต่างจังหวัดและส่วนท้องถิ่นไปกว่า 2.5 หมื่นเตียง เพื่อให้การดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีอาการไม่มาก สำหรับจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดสูง เช่น กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมโรงพยาบาลสนามไว้ 4 แห่ง ขณะนี้สามารถให้บริการได้ 1,250 เตียง และจะเพิ่มอีก 500 เตียงในเร็วๆนี้

ขณะที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้มหาวิทยาลัยที่มีความพร้อม เปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมในทุกจังหวัด และประสานงานโดยทันทีกับทางจังหวัด สาธารณสุขในพื้นที่ และดำเนินการร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง เบื้องต้น สามารถให้บริการได้ 12,822 เตียง จากโรงพยาบาลสนาม 37 แห่ง ทั่วทุกภาค ซึ่งในส่วนกระทรวงกลาโหม กำลังเร่งสนับสนุนและดำเนินการจัดเตรียมความพร้อม โรงพยาบาลสนาม กว่า 5,000 เตียง ทั้งไนพื้นที่ กทม. และปริมณทล รวมทั้งในส่วนภูมิภาค เพื่อส่งมอบให้ สาธารณสุขบริหารจัดการในภาพรวมต่อไป

รองโฆษกรัฐาล กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขยังได้จัดหาโรงแรมที่ไม่มีผู้พักอาศัยมาทำเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว (Hospitel) เพื่อใช้ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแพทย์ พยาบาล เครื่องมือที่สำคัญ เช่น ปรอทวัดอุณหภูมิดิจิทัล เครื่องวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด และ เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ โดยการดูแลจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มไม่มีอาการ แต่หากมีอาการจะส่งไปรักษาในโรงพยาบาลพี่เลี้ยง กลุ่มที่ 2 กลุ่มมีอาการที่อยู่โรงพยาบาล 3-5 วัน หากอาการไม่แย่ลงหรืออาการปกติ สามารถย้ายมาอยู่ที่ Hospitel ต่อไป ซึ่งขณะนี้มี Hospitel แล้ว 23 แห่ง รวม 4,900 เตียง มีการครองเตียงแล้ว 2,000 เตียง และมีแผนจะขยายให้ได้ถึง 5,000-7,000 เตียงในระยะต่อไป ส่วนเรื่องค่ารักษา หากผู้ป่วยมีประกันสุขภาพ ให้เบิกจากประกันสุขภาพส่วนบุคคล หากไม่มีประกันส่วนบุคคลจะได้รับสิทธิตามสิทธิในการรักษาพยาบาลภาครัฐ

“นายกรัฐมนตรีกำชับให้การบริหารจัดการและการเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลสนาม และHospitel ต้องสอดคล้องกับสถานการณ์และจำนวนผู้ป่วย ซึ่งผู้ติดเชี้อโควิด-19 ทุกคนจะต้องได้รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลอย่างดีและรวดเร็ว อีกทั้ง ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีศาสตราจาร์ยคลีนิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกุล สกลสัตยาทร เป็นประธาน ได้เร่งเดินหน้าจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม เพื่อเป็นวัคซีนทางเลือกสำหรับคนไทยด้วย”น.ส.รัชดา กล่าว