นายกฯ ร่วม สถาปนากระทรวงยุติธรรม ครบรอบ 130 ปี ขอทุกคนยึดมั่น 3 สถาบันหลัก “แช่ง” แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ มีพระสยามเทวาธิราช-พระแก้วมรกต คุ้มครอง ใครทำอะไรไว้ย่อมได้รับกรรม เตือน โควิดยังไม่จบร่วมม็อบเสี่ยงเอาเชื้อมาติดครอบครัว
วันที่ 25 มี.ค.64 เวลา 10.45 น.ที่อาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในงานสถาปนากระทรวงยุติธรรม ครบรอบ 130 ปี โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับกลุ่มตัวแทนผู้เลี้ยงไก่ชนในหลายจังหวัด ที่มอบกระเช้าดอกไม้ขอบคุณรัฐบาลได้คลายล็อกในหลายพื้นที่ให้สามารถกลับมาเปิดได้อย่างถูกต้อง
โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า มีความยินดีได้มาพบปะกับทุกคน เพราะช่วงที่ผ่านมาตนไม่สามารถไปเดินทางไปพบปะใครได้ วันนี้ย้ำว่าประเทศไทยจำเป็นต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสุขภาพไปพร้อมกัน ตนในฐานะนายกฯ ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน แต่ปัญหามาจากโรคระบาดร้ายแรง ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วและเข้าใจความเดือดร้อนจากสถารณ์โควิด โดยได้ผ่อนคลายและปลดล็อกไปหลายอย่าง ซึ่งต้องทำไปทีละขั้นตอนตราบใดที่ยังแก้ไม่ได้ 100%
สิ่งสำคัญที่สุดคือการระมัดระวัง โดยมาตรการที่ง่ายที่สุด คือ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่าง พร้อมปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันการดื่มสุราทำให้ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ห้าวหาญและเสี่ยงติดโรค การสนุกเกินเหตุวิถีไทย ก็ขอให้เบาๆ กันหน่อยช่วงนี้ยังอันตราย โดยยเฉพาะช่วงสงกรานต์ที่มีคนเยอะขึ้น โดยให้จัดกิจกรรมได้แต่ต้องมีขอบเขต สนุกมากติดเชื้อเร็วก็จะลำบาก ทุกอย่างอยู่ที่จะร่วมมือกัน
ขอให้ทุกคนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เหมือนที่ตนให้กำลังใจท่าน ท่านก็ให้กำลังใจตน จึงทำให้มีกำลังใจทำงานต่อไป โดยยืนยันจะทำหน้าที่ด้วยความโปรงใส สุจริตและเป็นธรรมให้มากที่สุด และหากใครเรียกหาประโยชน์แจ้งมาได้ทันที ทั้งนี้ขอให้ทุกคนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ขอเพียงแค่นั้น เพราะต้องทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยอยู่กันด้วยความรักความสามัคคีฉันพี่ฉันน้อง เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นครอบครัวคนไทยและประเทศไทย
“เราต้องมีความรักความสามัคคีและร่วมมือกันทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย อยู่ด้วยความรัก ความสามัคคี เป็นครอบครัวเดียวกัน นายกฯก็เป็นครอบครัวเดียวกับพวกเราทุกคน อยู่ด้วยความสงบเรียบร้อยไม่มีการใช้กฎหมายมากเกินไป เพราะเจ้าหน้าที่เองก็ลำบากและเหนื่อยไม่มีใครอยากทำผิดกฎหมายเว้นพวกเจตนา จึงอยากขอร้องพวกเราทุกคนดูแลลูกหลาน เยาวชนของเราให้ดี ไม่เช่นนั้นปัญหาจะเกิดขึ้นตามมามากมาย แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นโลกดิจิทัล สามารถสื่อสารส่งข้อมูลที่บิดเบือนถึงกันอย่างรวดเร็วจนสร้างความไม่เข้าใจ รัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อคนไทยทุกคน อย่าลืมว่าเราคือคนไทย เกิดบนผืนแผ่นดินไทย ทุกคนใช้ชีวิตบนผืนแผ่นดินไทย แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าทำสิ่งที่ดีได้สิ่งที่ดีตอบ ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมของแต่ละคน” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำว่า ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน ทุกคนต้องเรียนรู้โลกยุคใหม่ ไม่เช่นนั้นจะเป็นช่องทางให้คนมาเอาประโยชน์จากเรา ซึ่งรัฐพยายามทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันด้วยกฎหมาย ดังนั้นทุกคนต้องเคารพกฎหมาย สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำมาได้เดินหน้าและพัฒนาไปด้วยดีและจะดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เป้าหมายรัฐบาลนี้เป็นเป้าหมายเดียวกันกับทุกคน โดยแก้ปัญหาที่หมักหมมมายาวนาน
“วันนี้ขอร้องให้ทุกคนช่วยกันรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ อย่าลืมว่าแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะพระสยามเทวาธิราชและพระแก้วมรกตทรงดูแลคุ้มครองมาตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา พ่อแม่ก็คือพระในบ้าน สังคมเราต้องเคารพผู้มีอาวุโส พ่อแม่พี่น้องครูบาอาจารย์ ถ้าสิ่งเหล่านี้หายไปก็ไม่ใช่คนไทยและประเทศไทยแล้ว หรือใครคิดว่ามันดีบ้าง ดังนั้นใครที่ไม่พอใจหรือคิดอะไรที่แตกต่างก็ขอให้ถามเพื่อนดูบ้าง คุยกันเองก็แล้วกัน ผมบังคับไม่ได้เพราะเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว เราไม่เคยไม่มี ผมก็เข้าใจตรงนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานการณ์โควิดยังต้องระมัดระวังต่อไป โดยย้ำว่าเรายังดีกว่าหลายประเทศที่ควบคุมดูแลได้ แต่ขอเตือนการชุมนุมต่างๆ คนเยอะๆ ซึ่งตนไม่ได้ขู่ แต่อันตรายหากติดถึงลูกหลาน พ่อแม่และครอบครัวขึ้นมาก็ลำบาก รัฐบาลก็ไม่รู้ทำอย่างไรเหมือนกัน