“โทนี่-ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ย้อนรอยซื้อ แมนฯ ซิตี ผ่านคลับเฮาส์ เผย จ่ายแค่ 23 ล้านปอนด์ ต้องการไปสร้างชื่อเสียงเรื่องกีฬา เลี่ยงการเมือง
อังคารที่ 16 มีนาคม 2564 เวลา 22.10 น. “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมพูดคุยผ่านทาง Clubhouse ซึ่งจัดโดยกลุ่ม CARE ตอนหนึ่ง มีผู้ถามถึงการเข้าเทคโอเวอร์ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี เมื่อ 14 ปีที่แล้ว โดย นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนมาลี้ภัยที่ลอนดอน เช้าวันแรกมีทูตสิงคโปร์ประจำลอนดอน บอกว่าฝากคำห่วงใยของลีกวนยู อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ บอกว่าให้นิ่งไว้ ก็เลยคิดว่าอย่าไปยุ่งการเมืองแล้วกัน แต่ก็จำเป็นต้องให้ชื่อยังอยู่ เลยคิดว่าจะซื้อทีมฟุตบอล เพราะคิดจะทำมานานแล้ว แล้วขณะนั้นทีมในพรีเมียร์ลีกประกาศขายกันหลายทีม ตนก็ได้คุยกับหลายทีม
“สุดท้ายก็ไปเจอทีมแมนฯ ซิตี ซึ่งตอนนั้นเป็นทีมที่เตรียมตกชั้นทุกปี แต่ราคาไม่แพง รวมถึงมีสนามเพิ่งสร้างใหม่ สวยงาม มีอายุสัญญาเช่า 200 กว่าปี ผมจึงคิดว่าน่าจะเป็นหลักทรัพย์ที่ดี เลยตัดสินใจไปเจรจาซื้อด้วยราคา 23 ล้านปอนด์ แล้วก็ค่อยๆ สร้างทีม”
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ตอนนั้นในแมนเชสเตอร์มีแฟนบอลของแมนฯ ซิตี มากกว่า แมนฯ ยูฯ แต่ถ้าทั้งโลกมีแฟนบอลของแมนฯ ยูฯ มากกว่า ส่วนตอนนี้ไม่รู้แล้ว เพราะแมนฯ ซิตี ก็กลายเป็นทีมดังไปแล้ว
“วิธีการของผมคือไปดูกับหลายเจ้า ไปดูฐานะแฟนพันธุ์แท้ทีมต่างๆ ซึ่งแมนฯ ซิตี มีสนามฟุตบอลที่ดีอยู่แล้ว เราแค่ไปหาซื้อนักเตะ หาโค้ชที่ดี เลยตัดสินใจซื้อทีมนี้ เพื่อทำให้เรามีชื่อเสียงด้านกีฬา ไม่ไปยุ่งเรื่องการเมือง และถือเป็นการทำตามที่ลีกวนยูแนะนำด้วย”
ทักษิณ ชินวัตร รับตำแหน่งเป็นเจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี ในช่วงปี 2007-2008 ก่อนจะขายกิจการให้ Abu Dhabi United Group ในปี 2008