กำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมค้นบ้านคุมตัวชายต้องสงสัย เกี่ยวพันคดีปล้นรถกระบะ เอาไปซุกระเบิดขับจอดหลังโรงพัก – แฟลตตำรวจ หวังคาร์บอมบ์ถล่ม แต่จนท.กู้ทัน
จากกรณีคนร้าย 5 คน ใช้อาวุธปืนปล้นรถกระบะโตโยต้าวีโก้ ทะเบียน บฉ 3897 ยะลา ของนายบัยฮากี อายุ 26 ปี ขณะกำลังนำพัสดุของลูกค้าบริษัทส่งของชื่อดังเข้าไปส่งภายในบ้าน โดยคนร้ายใช้ปืนจี้ศีรษะจับมัดปิดปากทิ้งไว้ในบ้าน แต่นายบัยฮากี ดิ้นรนจากการถูกมัดหลุดหนีมาแจ้งความที่สภ.เมืองยะลา จากนั้นเจ้าหน้าที่พบรถจอดทิ้งไว้บริเวณด้านหลัง สภ.รามัน ใกล้แฟลตเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และติดที่ว่าการอำเภอรามัน โดยพบว่าซุกระเบิดถังแก๊สไว้ถึง 2 ลูก รวมทั้งระเบิดแบบกระป๋องสเปรย์ลูกเล็กอีก 1 ลูก เจ้าหน้าที่ต้องใช้หุ่นยนต์กู้ระเบิดยิงทำลายเก็บกู้ไว้ได้
ล่าสุดคดีนี้ วันที่ 13 มี.ค.2564 เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองสนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ บ้านบือแน หมู่ 4 ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา ก่อนควบคุมตัว นายอับดุลรามัน อายุ 54 ปี ควบคุมตัวส่งหน่วยซักถาม ฉก.ทพ.41 หลังพบว่าต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุปล้นรถแล้วนำไปก่อเหตุคาร์บอมบ์บริเวณแฟลตตำรวจหลังสภ.รามัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ระเบิดบรรจุกระป๋องสเปรย์จุดชนวนด้วยระบบตั้งเวลา น้ำหนัก 2 ก.ก. วางอยู่ในถังขยะ ส่วนลูกที่ 2 และ ลูกที่ 3 เป็นถังแก๊สขนาด 4 ก.ก. น้ำหนักรวม ลูกละ 28 ก.ก. เชื่อมต่อการจุดชนวนเข้าด้วยกันทั้งสองลูกแบบตั้งเวลา
ด้านพล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เชิญตัวบุคคลที่สั่งสินค้าและให้พนักงานขับรถขนส่งไปส่งที่บ้าน เนื่องจากพบว่าก่อนเกิดเหตุเจ้าของสินค้าได้โทรเข้าหาพนักงานขับรถรายนี้หลายครั้งในลักษณะสอบถามว่าใกล้จะถึงแล้วหรือยัง ซึ่งจะตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามายังพนักงานขับรถ ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายหรือไม่
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รองผบช.ภาค 9 ระบุว่า กลุ่มคนร้ายที่ปฏิบัติการในครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นกลุ่มที่ปฏิบัติการณ์ในเขตพื้นที่เมืองยะลา ต่อเนื่องกับในพื้นที่อ.รามัน คาดว่าเป็นกลุ่มเดิมเพื่อแสดงศักยภาพ คาดว่าเป็นกลุ่มของนายบูคอรี หลำโส๊ะและ และน้องชาย กลุ่มนี้เคยปล้นรถบรรทุกไม้บริเวณป่าช้าจีน อ.เมืองยะลา แล้วนำไปก่อเหตุคาร์บอมหน้า ศอ.บต. เคยปล้นรถยนต์จากเต้นท์รถในพื้นที่อ.นาทวี จ.สงขลา นำไปทำคาร์บอมบ์แต่เจ้าหน้าที่สกัดไว้ได้ทัน และยังปล้นร้านทองในพื้นที่อ.นาทวี จ.สงขลา ได้ทองรูปพรรณไปจำนวนมาก