โหวตวาระ3ได้”นิพิฏฐ์”ฉะพวกหวงอำนาจแปลคำวินิจฉัยศาลรธน.เข้าข้างตัวเอง

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ยืนยัน เดินหน้าโหวต แก้รธน.วาระ3ได้ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย และให้ไปทำประชามติถามความเห็นประชาชน ฉะพวกหวงอำนาจ ตีความสุดประหลาด เข้าข้างตัวเอง

12 มี.ค.64 – นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้ …การแปลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่เหลือเชื่อ
การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่สรุปว่า รัฐสภาสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนด้วยการลงประชามติเสียก่อน ก็หมายความชัดว่า ในวันที่ 17 มี.ค 2564 รัฐสภาสามารถลงมติร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ได้ เสร็จแล้วก็นำไปลงประชามติ ไม่เห็นต้องแปลความเป็นอย่างอื่น นักศึกษากฎหมายปี 1 เทอม 2 ก็แปลได้อย่างนี้ คณบดีคณะนิติศาสตร์ ก็แปลได้อย่างนี้

แต่มีสมาชิกรัฐสภาและนักกฎหมายบางท่านแปลว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาทำไปแล้วนั้นเป็นโมฆะ เพราะทำไปก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็หมายความว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่รอการลงมติในวาระ 3 ต้องถูกคว่ำอย่างเดียว

ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าท่านตีความไปอย่างนั้น เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญตกไป ทำไมไม่นำไปถามประชาชนผู้ “สถาปนา” รัฐธรรมนูญ เสียก่อน ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญล่ะครับ ถามประชาชนแล้วทำตามคำวินิจฉัยของศาลก็จบ ความขัดแย้งก็ไม่เกิด ท่านที่กลัวการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็อย่ากลัวไปเลยครับว่า ถ้าถามประชาชนแล้วจะแก้ได้ เพราะต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่าประชาชนของเราอ่านรัฐธรรมนูญน้อย ประชาชนของเราส่วนหนึ่ง(ซึ่งก็มีมากเสียด้วยสิ) ท่องอยู่อย่างเดียวว่า

1.รัฐธรรมนูญนี้เป็นฉบับปราบโกง (ทั้งที่อัตราการโกงเพิ่มขึ้นทุกวัน) แล้วจะไปแก้ทำไม

2. แก้รัฐธรรมนูญหรือไม่แก้ประชาชนก็ยังยากจนอยู่อย่างเดิม จะไปยุ่งกับรัฐธรรมนูญทำไม

-เมื่อประชาชน(บางส่วน) ยังคิดอยู่อย่างนี้การแก้ไขมันก็ไม่ง่ายหรอก

-ผมเพียงสรุปว่า อันอำนาจนั้นมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ลองอยู่ในมือใครแล้ว ยากที่จะปล่อยออกมา บางคนถึงกับยอมตายไปพร้อมกับอำนาจนั้นแหละ ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของนักปรัชญาท่านหนึ่งที่ว่า “ประชาธิปไตยนั้น เป็นรูปแบบการปกครองที่อยู่ในสวรรค์ ที่มีเทวดาเป็นพลเมือง การปกครองแบบนี้ไม่มีวันตกลงมาอยู่ในโลกมนุษย์” คิดได้อย่างนี้ ก็ปลงได้.