ปชป. ยังไม่มีการนัด กก.บริหารพรรคประชุม เพื่อพิจารณาตัวบุคคลเข้ารับตำแหน่ง รมช.คมนาคม แทน ถาวร เสนเนียม ขณะ กลุ่ม สส.สุราษฎร์ธานี ต่างเทคะแนนให้ “สินิตย์ เลิศไกร” รับเก้าอี้ หวังสร้างผลงาน เตรียมรับมือเลือกตั้ง
วันที่10 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กำลังพิจารณา รายชื่อบุคคลที่เข้าข่ายจะได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยคมนาคม แทน นายถาวร เสนเนียม แต่ยังไม่กำหนดการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส. โดยพรรคให้น้ำหนักกับผู้ที่เป็นส.ส.ในปัจจุบัน และไม่เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีมาก่อน ได้แก่ 1.นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี 2.นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง 3.นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และ 4.นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา
สำหรับทั้ง 4 คน เป็น ส.ส. 5 สมัย ขณะเดียวกันมีความพยายามจากผู้ที่เป็นอดีตส.ส.ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายวิรัช ร่มเย็น อดีต ส.ส.ระนอง ที่มีความอาวุโสทางการเมืองเช่นกัน จะเสนอตัวเข้ารับการพิจารณาครั้งนี้ด้วย แต่มีความเป็นไปได้ที่ผู้บริหารพรรค จะให้โอกาสแก่ผู้ที่เป็นส.ส.ปัจจุบันมากกว่า
ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ นายเจือ รามสีห์ และ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ก็จะหลุดจากวงโคจรของการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารพรรค
สำหรับนายนริศ ขำนุรักษ์ มีความใกล้ชิดกับ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิฏฐ์ หัวหน้าพรรคปชป.แต่มี ส.ส.และสมาชิกพรรคบางส่วนเห็นว่าควรให้โอกาสนี้แก่ นายสินิตย์ เลิศไกร ที่เป็นตัวแทนจาก กลุ่มส.ส.สุราษฎร์ธานี เพราะมีความอาวุโส และกลุ่มส.ส.สุราษฎร์ธานีทั้ง 6 คน สามารถ ผนึกกำลังกันจนชนะการเลือกตั้งยกจังหวัด และ จากสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่ถึง 2 ปี ปชป.จะต้องเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อคัดเลือกคนเป็นรัฐมนตรี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างฐานเสียงของพรรคให้มั่นคง แต่ถ้ายังเลือกแต่คนที่ใกล้ชิดกับผู้บริหารพรรค ก็น่ากังวลว่าอาจทำให้ยิ่งเกิดความแตกแยกภายในพรรคได้
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า กรณีของนายสินิตย์ ได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจาก นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานสภาที่ปรึกษาและเป็นแกนนำสำคัญของพรรคใน จ.สุราษฎร์ธานี จึงเห็นชอบการเสนอชื่อนายสินิตย์ และรับปากว่าจะนำชื่อนี้ไปพูดเจรจา กับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ให้นำชื่อเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริพรรค ขณะที่กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นส่วนใหญ่ ต่างสนับสนุนให้ นายสินิตย์ เป็นรัฐมนตรี เพื่อ เตรียมพร้อมรับมือกับการเลือกตั้งสมัยหน้า เพราะถ้าพลาดโอกาสนี้ อนาคตพรรคปชป. ใน จ.สุราษฎร์ธานี ลำบากแน่ และอาจจะสาหัสถึงขั้นสูญเสีย ส.ส.เกือบยกจังหวัดก็เป็นได้