ปรากฏการณ์ สั่นสะเทือน การเมืองไทย กรณี ศาลอาญา สั่งจำคุก “สุเทพ เทือกสุบรรณ” แกนนำ กปปส. พ่วง 3 รมต.”ณัฎฐพล-พุทธิพงษ์-ถาวร” ในรัฐบาล”ลุงตู่” ต้องกระเด็นพ้นเก้าอี้ และ ยังไม่นับรวม สส.เขตอีกหลายราย ที่ต้องเปิดให้มีการเลือกตั้งซ่อม
ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ เกรียวกราว ที่ นสพ.เกือบทุกฉบับนำมา พาดหัวตีข่าวใหญ่บนหน้า1
ปฏิกริยา นับจากนี้ ต้องติดตามการ ปรับครม.ครั้งใหญ่ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
เมื่อรธน. มาตรา 160(7) บัญญัติไว้ว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยไม่คำนึงว่า คดีจะถึงที่สุดหรือไม่ หรือคำพิพากษาที่ให้ลงโทษจำคุกนั้น จะมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ความผิดที่ศาลพิพากษาให้รอการลงโทษนั้นจะเป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ และความผิดฐานหมิ่นประมาท
ดังนั้น “3 รัฐมนตรี” ที่กล่าวถึงข้างต้น ต้องหลุดจากตำแหน่งทันที…กลายเป็นไฟต์บังคับให้ “บิ๊กตู่” ในฐานะ นายกรัฐมนตรี ต้องปรับ ครม.โดยพลัน จะประวิงเวลาไปไม่ได้แล้ว
3 เก้าอี้ที่ว่างลงนั้น “รมว.ดีอีเอส-รมว.ศึกษาธิการ” เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ ส่วน “รมช.คมนาคม” เป็นของประชาธิปัตย์
เป็นที่รับรู้กันว่า ช่วงก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็มีการเดินเกมของ “3 รมช.” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ-นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน-สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ผนึกกำลังกันเขย่าเก้าอี้คนในรัฐบาลด้วยกันเองที่ถูกอภิปราย เป้าหมายคือ “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รมว.ศึกษาธิการ …ทั้ง 3 รมช. หวังขึ้นชั้นเป็น รัฐมนตรีว่าการ เมื่อมาเกิดเหตุเก้าอี้ว่างลงเช่นนี้ บรรยากาศย่อมคึกคัก แต่งตัวรอกันแล้ว
“ร.อ.ธรรมนัส” น่าจะเล็งไปที่ รมว.ดีอีเอส ซึ่งถือว่าเป็นโควตาเดิม ตั้งแต่การฟอร์ม ครม.รอบแรก แต่ติดที่ยังไม่ค่อยเคลียร์ในเรื่อง “ภาพลักษณ์” จึงมีข่าวว่าจะให้ “อัครา พรหมเผ่า” น้องชาย มานั่งแทน
แต่สุดท้ายเก้าอี้นี้ตกเป็นของ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” กลุ่ม กทม.ของพรรค ที่ลุงตู่มองว่า ภาพลักษณ์ดูดีกว่า ถึงวันนี้ ชื่อของ “รอ.ธรรมนัส” บารมีเบ่งบาน จึงไม่เป็นเรื่องเกินเลยไปถ้าจะขอคว้าเก้าอี้ รมว.ดีอีเอส มาครองให้ได้อีกครั้ง
ส่วน “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หลังจากได้นั่ง รมช.แรงงาน แบบขัดตามทัพ ย่อมหวังขึ้นชั้นไปนั่ง รมว.ศึกษาธิการ ตามที่ฝันเอาไว้ ซึ่งว่ากันว่าถึงกับเคยเอ่ยปากขอ “ลุงป้อม” ไว้แล้ว
ถ้า “รอ.ธรรมนัส-อ.แหม่ม” สมหวัง แล้ว “สันติ พร้อมพัฒน์” ซึ่งเป็นนักการเมืองเก๋าเกม เคยคุมกระทรวงระดับ เกรดเอ มาก่อนจะยอมนั่งรากงอกอยู่ที่ตำแหน่ง รมช. ก็คงจะไม่ใช่ แล้วถ้าใน 3 คนนี้ มีการขยับขึ้นชั้นไปจริง เก้าอี้ “รมช.” ก็จะว่างลง อาจเป็น รมช.เกษตรฯ รมช.แรงงาน รมช.คลัง หรือ ทั้ง 3 เก้าอี้
กลุ่มก๊วนต่างๆ ทั้งในพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล ย่อมมีการเคลื่อนไหวกันคึกคักเช่นกัน อย่างเช่น “กลุ่มส.ส.ภาคใต้” ของพรรคพลังประชารัฐ ที่เคยร่ำร้องขอเก้าอี้รัฐมนตรี เพื่อไปขยายฐานเสียง ซึ่งกลุ่มนี้อยู่ในความดูแลของ “ผู้กองธรรมนัส”
ยังมี กลุ่มพรรคเล็ก ที่ “ชัช เตาปูน” ชัชวาล คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย ก็ส่งสัญญาณมาแล้ว…
และที่สำคัญ จะมองข้ามพรรคภูมิใจไทย ของ อนุทิน ชาญวีรกูล ที่มี”บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ เป็นกุนซือคุมเกมอยู่เบื้องไม่ได้เด็ดขาด เพราะขณะนี้จำนวน ส.ส.ของพรรคเพิ่มขึ้นมามาก จนช่วยขจัดปัญหารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำไปได้ ย่อมต้องกดดันของ เพิ่มเก้าอี้ รมต.อย่างแน่นนอน จากที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ “ภท.ต้องได้มากกว่าเดิม”
ส่วนเก้าอี้ “รมช.คมนาคม” ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ว่างลงก็คงวุ่นไม่แพ้กัน …ทั้ง “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี และ ส.ส.ในกลุ่มอีก 2 คน จาก จังหวัดชายแดนใต้ ต่างร่ำร้องร้องเรียหากกันมานาน แต่อาจต้องเจอแรงต้าน ภายใน จากอีกหลาย กลุ่มก๊วน ใน ปชป. กรณี โหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา โดย “งดออกเสียง” ให้กับ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคของตัวเอง
เกมการเมืองวันนี้ และ คงลากยาวไปอีกนับเดือน คงร้อนระอุอ้าว รับ เดือน5 หน้าแล้ง ของประเทศไทย