รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ตบปาก “วิโรจน์” ลอกโซเชียล โกหกคำโตปมวัคซีนโควิด เย้ยในสภาฯ ด่าสารพัด พอเจอหน้าห้องน้ำกราบแทบอก แจงไทม์ไลน์วัคซีน 3 ล๊อตถึงไทยพร้อมฉีด
วันที่ 17 ก.พ. เวลา 14.40น ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข อภิปรายตอบโต้นายวิโรจน์ ลักษขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในประเด็นวัคซีนโควิด-19ว่า ตอนแรกได้เตรียมข้อมูลมาเสนอมากมาย แต่พอเจอคำว่าสำเนียงส่อภาษา กิริสาส่อสกุล แล้วคนที่เข้าคุณสมบัตินี้มาใช้ใช้สภาฯอันทรงเกียรติแห่งนี้กล่าวโกหกคำโต เพื่อให้ประชาชนสับสน
โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพ ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดร้ายแรง แทนที่จะให้กำลังใจกัน แต่นำข้อมูลที่ไปเช็คในโซเชียลมีเดีย ไม่มีการพิสูจน์ให้เห็นว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรมาเผยแพร่ไปยังประชาชน พอบอกว่ารมว.สาธารณสุข เป็นคนน่ารังเกียจ อยู่ใกล้ๆก็ยังไม่อยากจะอยู่ด้วย แต่เมื่อซักครู่เจอหน้าห้องน้ำกราบแทบถึงอก ทำไมต้องมาว่ากันเรื่องนี้ เราไม่ได้เกลียดกัน แทบไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ ถ้าตนบอกบ้างว่าตนขึ้นมาบนนี้ตนรีบเอาแอลกอฮอล์ฉีดตรงเนคไทตน จะรู้สึกอย่างไร
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันว่าในเดือนก.พ.นี้ วัคซีนล๊อตแรกจะมาถึงไทยจำนวน 2 แสนโดส ภายในเดือนมี.ค. วัคซีนล๊อตที่ 2 จะมาถึงจำนวน 8 แสนโดส ภายในเดือนเม.ย. ล๊อตที่ 3 จะมาถึง อีก 1 แสนโดส และภายในปลายเดือนพ.ค. หรือต้นเดือนมิ.ย. วัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย ยี่ห้อแอสตราเซนิก้า จะทำการส่ง และนำไปฉีดให้คนไทยได้ครบถ้วน ที่บอกว่าตนล่าช้า เอ้อระเหยลอยชายกับเรื่องวัคซีนนั้น ขอเรียนว่าตั้งแต่มีโควิด คำต่อไปที่ตนคิดคือวัคซีน เป็นเหตุให้สถาบันวัคซีนถึงได้รับการสนับสนุนงบประมาณถึง 3 พันล้านบาท
และต้องขอบคุณนายกฯที่รับฟังบุคลากรทางการแพทย์ และสนับสนุนอย่างเต็มที่ กล้าพูดหรือไม่วัคซีนแอสตราเซนิก้าไม่มีคุณภาพ กว่าที่เขาจะจำหน่ายให้เรา ต้องผ่านกระบวนการทดสอบมามากมาย แล้วประสานแนะนำมายังรัฐบาลว่ามีเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนที่เหมาะสมกับไทย ถ้าไทยได้เป็นฐานการผลิต วัคซีนนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยเหลือมนุษยชาติ ไม่ใช่แค่ไทย แต่ในกลุ่มอาเซียนด้วย ดังนั้นสถาบันวัคซีนของไทยสามารถให้การสนับสนุนองค์กรใดก็ตามที่สามารถเพิ่มศักยภาพในการผลิตวัคซีนที่มีคุณภาพออกมาแจกจ่ายให้คนในประเทศ
“แอสตราเซนิก้าเขาไม่ได้เลือกบริษัทสยามไอโอไซเอนด์ก่อน ก่อนที่เข้าจะเลือก เขาได้ไปเยี่ยมดูประสิทธิภาพของบริษัทยาอื่นๆ ในไทยมามากมาย สุดท้ายเขาเลือกบริษัทสยามไบโอฯ เนื่องจากผลิตชีววัตถุในการผลิตวัคซีนที่มีความคงที่ที่ดีที่สุด ที่สำคัญคือผมต้องเร่งหาวัคซีนให้คนไทยทุกคน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมาในเวลาที่เหมาะสม”นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่มีวัคซีน 63 ล้านโดส ครอบคลุมเพียงพอดูแลกลุ่มเสี่ยง เราบริการจัดการเป็นระบบ ไม่เที่ยวไปหาข่าวร้าย หลบหลู่ ดูหมิ่น บั่นทอนกำลังใจคนทำงาน ไม่ใช้วาจาสามหาว พูดในเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับการอภิปราย ที่มาบอกว่าเห็นหนูตาย มันก็เน่าพอๆ กับกลิ่นปากเหม็น ไม่ต่างกัน
ตนเชื่อว่าตนยังทำประโยชน์ให้ประชาชน และประเทศได้มากกว่า เอาไว้มีโอกาสเข้ามาก่อน แล้วค่อยมาพิสูจน์กัน ยืนยันว่าวัคซีนที่จะให้คนไทย เหมาะสมที่สุด จะไม่มีวันถูกตัดคิว ไม่มีคนมาแย่ง ผู้อภิปรายดูถูกคนไทยมาก ดูถูกบุคลากร ขอให้เข้าใจด้วย เราไม่มีอะไรกัน อยู่ตรงนี้ก็ดุจัง พออยู่ข้างนอกก็ยิ้มใส่กัน